DDD ปรับกลยุทธ์! เน้นโตผ่าน "โชวห่วย"

14 ธ.ค. 2561 | 00:04 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ธ.ค. 2561 | 16:59 น.
DDD เบนเข็มโตในประเทศ ตั้งเป้าขึ้นแท่น 1 ใน 3 อันดับเจ้าตลาด ภายใน 5 ปี มุ่งเน้นเติบโตจากร้านค้าแบบดั้งเดิม ตั้งเป้าเพิ่มช่องขายของร้านโชวห่วย 1 แสนร้านค้า หวังดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 12% จาก 4%

ผลประกอบการที่ออกมาไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมาของ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ในงวด 9 เดือน ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 983.36 ล้านบาท ลดลง 21.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากยอดขายในต่างประเทศที่ลดลงถึง 52.42 ล้านบาท และเหตุนี้ทำให้บริษัทต้องกลับมาทบทวน โดยเบนเข็มมามุ่งเน้นตลาดในประเทศแทน

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน DDD กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เดิมที่เราตั้งใจจะเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของเอเชีย เป้าหมายนั้นก็ยังอยู่ แต่จะมองภาพความเป็นจริงมากขึ้น คือ ทำในประเทศไทยให้ดีก่อน เพราะตลาดในประเทศ DDD มียอดขายอยู่ในอันดับที่ 6-7 ยังมีโอกาสจะเติบโตอีกมาก

 

[caption id="attachment_360198" align="aligncenter" width="454"] ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์[/caption]

"สิ่งที่เรายังขาด ก็คือ การกระจายสินค้าของร้านค้าแบบดั้งเดิม หรือ โชวห่วย มีเพียง 1% หรือประมาณ 4,000 ร้านค้า จากตลาดที่มีอยู่กว่า 4 แสนร้านค้า ถือว่ายังมีน้อยมาก ๆ ขณะที่ การขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเติบโตได้ดี"

เป้าหมายภายใน 5 ปี บริษัทต้องการเป็น 1 ใน 3 ของประเทศไทย หรือมีส่วนแบ่งยอดขายประมาณ 12% จากปัจจุบันที่อยู่อันดับ 6 มีส่วนแบ่งเพียง 4% กลยุทธ์โดยการขยายผ่านร้านค้าแบบดั้งเดิม โดยเพิ่มจำนวนร้านค้าจากที่มีเพียง 1% เป็น 30% หรือให้ได้ประมาณ 1 แสนร้านค้า

"ตลาดครีมบำรุงผิวมีมูลค่าตลาดผ่านโมเดิร์นเทรด 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนร้านค้าแบบดั้งเดิมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกัน ปัจจุบัน DDD มีส่วนแบ่งตลาดโมเดิร์นเทรดอยู่ที่ 5% ขณะที่ ร้านค้าแบบดั้งเดิมตํ่ากว่า 1% ตรงนี้จึงเป็นโอกาส หากร้านค้าแบบดั้งเดิมสามารถเพิ่มเป็น 5% หรือมีมูลค่ายอดขายเป็น 1,500 ล้านบาท ก็เท่ากับบริษัทได้เพิ่มอีกตลาดหนึ่ง"

นายปิยวัชร กล่าวว่า ยอดขายในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% จากปีนี้ แบ่งเป็น 7% โตจากการกระจายสินค้าขายผ่านร้านค้าแบบดั้งเดิม ซึ่งปีหน้าจะเพิ่มอีกประมาณ 2 หมื่นร้านค้า (ราว 5-7%) ส่วนอีก 6% จะโตจากสินค้าบำรุงผิวหน้าที่จะออกใหม่ 4 ผลิตภัณฑ์ และอีกกว่า 6% จะโตจากการขยายตลาดไปฟิลิปปินส์ หลังเข้าไปเปิดตลาดเมื่อเดือน ก.ย. 2561 และมีผลประกอบการค่อนข้างดี

สำหรับงบการตลาด จากเดิมที่ใช้เพื่อสื่อโฆษณาสร้างการรับรู้ของแบรนด์ Snail White ต่อไปจะใช้งบจัดโปรโมชัน และเป็น Incentive ให้กับร้านค้าแบบดั้งเดิมมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการเน้นการขายแบบซอง (Sachet) ในพื้นที่มากขึ้น และเพิ่มสินค้า 4 ผลิตภัณฑ์ จากปีที่แล้วที่มี 1 ผลิตภัณฑ์

ราคาหุ้น DDD ในปีนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยขึ้นไปสูงเกิน 115 บาท ลงมาเหลือตํ่ากว่าระดับ 26 บาทในปัจจุบัน มุมมองจากโบรกเกอร์แนะนำ "ถือ" และ "ซื้อเก็งกำไร" บล.กสิกรไทยฯ ให้ราคาเหมาะสม 30 บาท บล.บัวหลวงฯ ให้ราคาเหมาะสม 35 บาท

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,426 วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561

e-book-1-503x62-7-1-503x62