"Food Innovation Company" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

13 เม.ย. 2562 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 เม.ย. 2562 | 02:51 น.


การประกาศ Vision ก้าวสู่ Food Innovation Company ด้วยระยะเวลา 10 ปี กลายเป็นความท้าทาย "อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้บุกเบิกและสร้างตลาดสาหร่ายพร้อมปรุงให้เกิดขึ้น และเป็นผู้นำในทุกวันนี้ แม้ภาพรวมตลาดสาหร่ายจะยังคงมีการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยการแข่งขันบนธุรกิจ การสร้างฐานธุรกิจที่หลากหลาย นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยง ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับองค์กร


"ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "ต๊อบ-อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" กับเส้นทางเดินบนความท้าทายใหม่

 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

 

⁍ ขยายความ Vision ใหม่ของเถ้าแก่น้อย

"อิทธิพัทธ์" บอกว่า ตลอดเส้นทางธุรกิจของเถ้าแก่น้อยที่เดินทางมากว่า 10 ปี มีเป้าหมายที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นบริษัทขนมขบเคี้ยว หรือ สแน็ก ระดับโลก (Global Snack Company) ดังนั้น การดำเนินธุรกิจจึงมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในประเทศควบคู่กับการขยายตลาดไปวางขายในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะมียอดขายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 แต่วันนี้ เมื่อโลกเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น จึงมองเป็นโอกาสในการที่จะก้าวสู่ตลาดโลกด้วยการพัฒนาและนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมด้านอาหาร หรือ Food Innovation Company

 


"เถ้าแก่น้อย" เริ่มสนใจให้ศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมมาระดับหนึ่ง สำหรับการก้าวสู่ Food Innovation Company ด้วยแนวคิดในการนำ New Formula มาผนึกร่วมกับ Business Model เพื่อให้ได้ Food Innovation (New Formula X Business Model = Food Innovation) หนึ่งในตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากแนวคิด Food Innovation คือ มายเวย์ (My Whey) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และมุ่งทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

 

"วิชันใหม่จะเน้นความยืดหยุ่น ไม่ยึดติดกับบิสิเนสโมเดลเดิม ๆ พัฒนาบิสิเนสโมเดลใหม่ ๆ เช่น ฟู้ด รีเทล อย่าง ร้าน "ฮิโนยะ เคอรี่" ร้านข้าวแกงกะหรี่ชื่อดังดีกรีแชมป์จากประเทศญี่ปุ่น หรือ แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เช่น ฟู้ด ดีลิเวอรี รวมถึง "เถ้าแก่น้อย ทินเท็น" ปลาหมึกไข่เค็ม ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับดีมาก ก็เป็น "นิว ฟอร์มูล่า" ที่คิดและพัฒนาขึ้นจากประเทศสิงคโปร์ และอนาคตก็จะเกิดการมิกซ์แอนด์แมตช์ จับคู่กับสินค้าอื่น ๆ พัฒนาออกมามากขึ้น"

 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

 

⁍ ทำไมถึงรุกเข้าสู่สแน็กปลาหมึก

เถ้าแก่น้อยเป็นรายแรกในเมืองไทยที่ทำสแน็กปลาหมึกไข่เค็ม ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่ไม่มีคู่แข่งใดทำมาก่อน ด้วยความโดดเด่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และเมื่อเป็นอาหาร สิ่งสำคัญ คือ รสชาติต้องดี อร่อย และมีประโยชน์ แตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด เมื่อทดลองทำตลาดก็ได้รับการตอบรับที่ดี และบริษัทมีแผนจะพัฒนารสชาติใหม่ออกวางจำหน่ายในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า

เป้าหมายของเถ้าแก่น้อยเองจึงเดินหน้าสร้างแบรนด์อย่างเต็มที่ ด้วยการนำ 6 สาว BNK48 มาเป็นพรีเซนเตอร์ และเป็นผู้นำเทรนด์ในเมืองไทย เพราะกระแสไข่เค็มเกิดขึ้นในสิงคโปร์เมื่อ 2 ปีก่อน และยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ทำให้มองว่า ด้วยรสชาติและความแตกต่าง จะทำให้คนไทยนิยมด้วยเช่นกัน และก็เป็นจริงดังคาดหมาย โดยเถ้าแก่น้อยทินเท็นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ 2 ที่มีส่วนผสมของไข่เค็ม เพราะก่อนหน้านี้ บริษัทได้ทดลองวางจำหน่ายสาหร่ายเทมปุระไข่เค็มออกทำตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

 

⁍ แผนงานต่อไปของเถ้าแก่น้อย

"อิทธิพัทธ์" บอกว่า เตรียมเปิดตัวอีก 2 โปรเจ็กต์ใหญ่ ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเป็นการตอบยํ้าความเป็น "ฟู้ด อินโนเวชัน" อีกทั้งรองรับตลาดที่เริ่มขยับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1 พบว่า การบริโภคเริ่มกลับมาอย่างเห็นได้ชัด จากปัจจัยบวกหลาย ๆ ด้าน รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้นและการลงทุนของภาคเกษตร ส่งผลให้ภาคเอกชนหลายแห่งเริ่มทำกิจกรรมมากขึ้นตามไปด้วย

พร้อมกันนี้ เถ้าแก่น้อยเองก็อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ "ฟู้ด อินโนเวชัน" เช่นกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ คือ ปี 2572 ซึ่งจะส่งผลให้เถ้าแก่น้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า จากปี 2561 ที่มีรายได้ราว 5,700 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสร้างกำไรให้เพิ่มขึ้น และการรุกทำตลาดจีนต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา

 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก

 

"ฟู้ด อินโนเวชัน จะทำให้สินค้าไปสู่มือลูกค้าในระดับโลกมากขึ้น เมื่อเรามีคอนเทนต์มาก เราก็มีโอกาสต่อยอดธุรกิจได้มาก อนาคตจึงอาจเห็นสาหร่ายมิกซ์กับแกงกะหรี่ หรือจะเห็นแกงกะหรี่ในรูปแบบโฟรเซน มีวางขายในร้านสะดวกซื้อ สามารถซื้อและนำกลับไปทานที่บ้านได้ ยิ่งมีคอนเทนต์มากเท่าไร เราก็สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์และสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น"


สัมภาษณ์ หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3460 ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2562
 

\"Food Innovation Company\" ความท้าทายใหม่บนเวทีโลก