สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ประกาศกระชับพื้นที่กับสำนักงาน กสทช. ป้องกันการผูก ขาดโครงการท่อร้อยสายของกรุงเทพธนาคม มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท หลังเลือกเอกชนรายเดียวทำตลาดถึง 30 ปี
ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวในสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ กรณี “โครงการท่อร้อยสายใต้ดินของกรุงเทพมหานคร” ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 โดยกรุงเทพมหานครได้มอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกรุงเทพมหานครที่มีหน้าที่ในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคด้านระบบขนส่ง ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม เป็นผู้ดำเนินโครงการดังกล่าว ในลักษณะให้เอกชนรายเดียว เป็น “ผู้ดำเนินการบริหารจัดการท่อร้อยสายใต้ดิน” ระยะเวลา 30 ปี เข้าลักษณะเป็นการผูกขาด กีดกันการแข่งขันทางการค้า
ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ต้องดูว่าโครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปหรือเปล่า ถ้าเดินหน้าต่ออาจต้องมีหนังสือแนะนำหรือหนังสือความเห็นไปยัง กสทช. หรือไปยัง ครม.เพราะในเบื้องต้นอำนาจกรรมการไม่ได้ให้ลงไปดูหรือจัดการในเรื่องเหล่านี้ เพราะอำนาจตรงนี้อยู่ที่ กสทช.ในการให้ใบอนุญาต แต่เมื่อให้ใบอนุญาตและเริ่มประกอบการแล้ว หากเราเห็นว่าขัดกับการแข่งขันหรือสร้างการผูกขาดขึ้น หรือขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 50 เราจะเข้าไปจัดการ
ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา
ในแง่มุมของการแข่งขันทางการค้า การดำเนินการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ซึ่งมีลักษณะเป็นการผูกขาดโดยธรรมชาติ ต้องใช้จำนวนเงินลงทุนสูง เช่นเดียวกับสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบขนส่งสาธารณะ โดยปกติเป็นหน้าที่ของรัฐต้องพึงจัดหาให้แก่ประชาชน เนื่อง จากเป็นบริการสาธารณะที่มุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ ดังนั้นในกรณีที่กรุงเทพ มหานคร ได้ให้เอกชนเพียงรายเดียวได้รับสิทธิ์ในการบริหารจัดการเป็นระยะเวลายาวนาน ถึง 30 ปีโดยยังไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการกำกับดูแลนั้น ตามหลักของการแข่งขันจะเป็นการสร้างอำนาจตลาด (Market Power) และอำนาจต่อรอง (Bargaining Power) ที่จะส่งผลกระทบต่อการเข้าสู่ตลาด การเข้าถึงบริการ และราคาค่าบริการของท่อร้อยสายใต้ดิน ในระยะยาวหากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างและเชิงพฤติกรรมที่กระทบต่อความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีอยู่ อันจะนำไปสู่การผูกขาดตลาดในธุรกิจดังกล่าวได้
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทาง การค้า (สขค.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของประเทศ จึงเห็นว่าการดำเนินการของกรุงเทพ มหานครควรจะต้องพิจารณาว่าการให้เอกชนเพียงรายเดียวซึ่งเป็นผู้ให้บริการในตลาดกิจการโทรคมนาคม และมีความได้เปรียบในการให้บริการ ทั้งความได้เปรียบเชิงศักยภาพและเชิงพื้นที่ โดยสามารถดำเนินกิจการได้นานกว่า 30 ปีนั้น จะสร้างทางเลือกในการใช้บริการและทางเลือกด้านราคามากน้อยเพียงใด กรณีนี้จะเป็นการจำกัดและสร้างอุปสรรคในการแข่งขันระหว่างผู้ใช้บริการรายอื่นที่อยู่ในตลาดเดียวกันหรือไม่
นอกจากนี้จะต้องคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินการดังกล่าวโดยไม่ถูกจำกัด กีดกัน หรือกำหนดเงื่อนไขทางการค้าหรือราคาที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันอย่างไร โดยควรจะต้องกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิ์ที่ ชัดเจน ป้องกันมิให้เกิดลักษณะพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนการแข่งขันทางการค้า
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรม การการแข่งขันทางการค้า (สขค.) จะมีการประสานงาน อย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในการกำกับดูแล เพื่อป้องกันมิให้เกิดพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ในการดำเนินโครงการการบริหารท่อร้อยสายดังกล่าวต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
● คุ้ยหลักฐาน กทม.ส่อพิรุธท่อร้อยสาย
● “สมเกียรติ”อัด กทม.ให้เอกชนผูกขาดท่อร้อยสาย
● แจงสัมปทานท่อร้อยสาย 2หมื่นล้าน30ปีโปร่งใส
● จี้รื้อสัมปทาน‘ทรู’ บิ๊กสื่อสารรุมต้านผูกขาด30ปีท่อร้อยสาย
● เปิดปูมท่อร้อยสาย 2หมื่นล้าน
● ทรูร่อนหนังสือแจงยังไม่ลงนามสัญญาท่อร้อยสายกทม.
● เบื้องหลังกทม.หักดิบ ยึดโครงการท่อร้อยสาย2หมื่นล.
● 6ยักษ์สื่อสารจี้นายกฯ เบรกท่อร้อยสายกทม.2หมื่นล.
● ท่อร้อยสายวุ่น จ่อรื้อสัญญาทรู
● ไขปม ท่อร้อยสาย ให้สิทธิ์เอกชน80%ไม่ผูกขาด
● ใคร...ลุยไฟ ใช้เงิน2.5หมื่นล้าน เพื่อสัมปทานท่อร้อยสาย 30ปี
● บิ๊กกรุงเทพธนาคม โต้ทุกข้อกล่าวหา ท่อร้อยสายสื่อสาร 2 หมื่นล้าน
● กทม.ลักไก่ ท่อร้อยสาย ไร้ราคากลาง
● ท่อร้อยสายใต้ดิน โอนผูกขาด อำนาจรัฐสู่เอกชน
● ‘รสนา’ชี้ทิ้งทวนท่อร้อยสาย ก่อนหมดวาระผู้ว่าฯกทม.
● สหภาพแคทฯ ร้องนายก ค้านท่อร้อยสาย
● ‘ทีโอที’ฮึดสู้! ปรับราคาท่อร้อยสาย
● ชำแหละผูกขาด ท่อร้อยสาย 2.5 หมื่นล้าน