นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า หลังเปิดให้บริการโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ศูนย์สุขภาพระดับพรีเมียม 6 ดาวที่ให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะรายบุคคล (Personalized Care) อย่างเป็นทางการไปเมื่อปีก่อน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง โดยมีลูกค้าเข้ารับบริการกว่า 3 หมื่นราย และเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าวพร้อมทั้งตอบโจทย์การรักษาที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ข่าวเด่นฐานเศรษฐกิจ
●ตระกูลดัง-บ้านโบราณ ไม่สะท้าน ภาษีที่ดิน
●เอกชนร้องคนกลุ่มเดียวทำศก.พัง ไตรมาสแรกจ่อไอซียู
ล่าสุดร.พ.ได้เปิดตัว 4 ศูนย์นวัตกรรมสุขภาพที่ทันสมัยระดับอาเซียน ได้แก่ ศูนย์จิณณ์ เวลเนส แอนด์ เอสเทติก (JIN Wellness Clinic) ศูนย์ศัลยกรรมความงามและผิวหนัง (Plastic and aesthetics center) ศูนย์หัวใจ (Heart Center) และศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ (Gastrointestinal & Liver Center) โดยชูจุดเด่นเรื่องการใช้ Disruptive Technology ในการตรวจรักษาและดูแลผู้ป่วย พร้อมกับทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษามาเป็นจุดแข็งในการรองรับผู้ป่วย
“นอกจากปัจจัยด้านนวัตกรรมการรักษามาตรฐานระดับสากล และการบริการระดับพรีเมียม 6 ดาวแล้ว เรายังมีความได้เปรียบในปัจจัยด้านราคาที่ถูกกว่ากลุ่มประเทศทางการแพทย์ชั้นนำในภูมิภาคอื่น รวมถึงปัจจัยหนุนด้านการท่องเที่ยวไทยที่น่าสนใจ ที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมารักษาตัวสามารถท่องเที่ยวพักผ่อนได้ไปพร้อมๆ กัน โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการตอบรับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพในระดับนานาชาติ (Medical Hub) โดย THG ยังคงฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ตามคติพจน์ของบริษัท “ปกป้องดูแลความสุขและ สุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต” (Lifetime Health Guardian For All)”
อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดศูนย์สุขภาพระดับพรีเมียมเพิ่ม 4 ศูนย์นี้ เพื่อตอบรับเทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการตรวจรักษาแบบเฉพาะทาง หรือ Personalized Healthcare ซึ่งเป็นจุดเด่นของโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง โดยสามารถรองรับผู้ใช้บริการชาวไทยและต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ที่ผ่านมาด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปีที่เปิดทำการ โรงพยาบาลประสบผลสำเร็จในด้านรายได้ สามารถทำกำไรได้เร็วกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง โดยมีลูกค้าเข้ารับบริการกว่า 3 หมื่นราย แบ่งเป็น กลุ่มประเทศตะวันออกกลางอยู่ที่ประมาณ 70% จีน 15% ส่วนที่เหลือมาจากเมียนมา กัมพูชา เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฯลฯ สร้างรายได้มากกว่า 900 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากโดยปกติที่ธุรกิจโรงพยาบาลจะต้องใช้เวลากว่า 3 ปีในการทำกำไร โดยในปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศเพิ่มกว่า 50% และเพิ่มรายได้ 100% จากปีที่ผ่านมา
“สาเหตุที่ร.พ.สามารถสร้างกำไรได้เร็ว เพราะโรงพยาบาลมีวิธีการบริหารจัดการด้วยการบริการแบบเฉพาะทาง มีวิธีการรักษาที่ได้มาตรฐาน และนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ทันตกรรมดิจิทัล ศูนย์รักษาแผลเบาหวาน ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และศูนย์ตรวจสุขภาพ Personalized Check-up ทำให้ได้รับการตอบรับและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการเข้ามารักษาของชาวต่างชาติ โดยหลังจากการเปิดให้บริการโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก”
หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,542 วันที่ 23-25 มกราคม 2563