นางสาวอภิรวี พิชญเดชะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหาร “happy shopping” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”, work from home, ปิดพื้นที่เสี่ยงทั้งห้าง ร้านค้า โรงภาพยนตร์ เป็นต้น ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านและเลือกซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางอี-คอมเมิร์ซ และโฮมช็อปปิ้งมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขการเติบโตของธุรกิจโฮมช็อปปิ้งที่สูงขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บำรุงสุขภาพ บำรุงสมอง ปอด เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย รองลงมาได้แก่ เครื่องครัวประเภทเครื่องล้างผัก ผลไม้ เป็นต้น อย่างไรก็ดีสินค้าที่จำหน่ายในโฮมช็อปปิ้งกว่า 50% ผลิตในประเทศจีน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ เมื่อจีนต้องเผชิญกับ
โควิด-19 ทำให้ต้องหยุดผลิต สินค้าบางรายการจึงขาดตลาด แม้ขณะนี้สถานการณ์ในจีนเริ่มคลี่คลาย แต่คาดว่าจะยังส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการจัด 3 แคมเปญใหญ่ โดยโยกบิ๊กแคมเปญที่เป็นไฮไลต์และจะจัดในไตรมาส 4 มาไว้ในไตรมาส 2 แทนเพื่อเป็นยาแรงกระตุ้นกำลังซื้อที่เข้ามาและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
ได้แก่ 1. แคมเปญ แฮปปี้ขอช่วย เมื่อสั่งซื้อสินค้าสุขภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฯลฯ ฟรีค่าจัดส่ง โดยไม่กำหนดขั้นตํ่า 2. แคมเปญ แฮปปี้ขอส่ง ครั้งแรกในวงการโฮมช็อปปิ้งกับการนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ สเปรย์ฆ่าเชื้อล้างมือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว ผลิตภัณฑ์ซักผ้า แชมพู บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร ปลากระป๋อง ฯลฯ โดยบริษัทจับมือกับ 4 ผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่ อาทิ เครือสหพัฒน์ ฯลฯ นำสินค้ามาจำหน่ายผ่านทางโฮมช็อปปิ้ง พร้อมจัดส่งให้ถึงบ้านฟรี โดยไม่มีค่าจัดส่ง
3. แคมเปญ แฮปปี้ ขอเสิร์ฟ โดยชักชวนผู้ประกอบการ OTOP และ SMEs นำสินค้าจากชุมชน ท้องถิ่น อาทิ ไข่เค็ม อาหารทะเลแห้ง หมูหยอง หมูยอ นํ้าพริกหนุ่ม ฯลฯ มาวางจำหน่ายผ่านทางแพลตฟอร์มใหม่คือ เว็บไซต์ https://www.happyshopping2you.com/ ซึ่งจะเปิดตัวในกลางเดือนเมษายนนี้ โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีสินค้าเข้าร่วมจากผู้ประกอบการกว่า 100 ราย
“มีนาคมยอดขายแฮปปี้เติบโตเพิ่มขึ้น 35% จากเดือนมกราคม ทำให้ไตรมาสแรกเราเติบโตกว่า 30% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโต 50% หรือมียอดรายได้ราว 570 ล้านบาท ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้”
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจสินค้าและแพลตฟอร์ม บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร “RS Mall” กล่าวว่า มาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติและเวิร์กฟรอมโฮม ส่งผลให้ประชาชนใช้งานโซเชียลมีเดียเพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารและใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำงานและซื้อของผ่านทีวีช็อปปิ้งมากขึ้น เนื่องจากผู้คนหลีกเลี่ยงแหล่งช็อปปิ้งที่มีความแออัด ส่งผลให้ยอดสั่งซื้อสินค้าของ RS Mall ผ่านทาง On air และ Online เพิ่มสูงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์
แม้สถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 ในปัจจุบันจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมหยุดชะงัก แต่ด้วยโครงสร้างการทำธุรกิจของอาร์เอสมอลล์ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อของจากที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสินค้าบำรุงสุขภาพ
ตอบโจทย์ลูกค้าในสถานการณ์โควิด-19 มีระบบการสั่งซื้อผ่านคอลล์เซ็นเตอร์และช่องทางออนไลน์ และมีมาตรการเข้มข้นเรื่องของ ความสะอาด ความปลอดภัย ให้กับพนักงานผู้แพ็กสินค้า และพนักงานจัดส่งสินค้าจากบริษัทคู่ค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังได้จัดแคมเปญ ช็อปปลอดภัย ห่วงใยคุณ แจกเจล ลดเสี่ยง เลี่ยงไวรัส โดยจะแจกแอลกอฮอล์เจลล้างมือให้กับลูกค้าทุกคนตลอดเดือนเมษายนนี้ด้วย