สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมื่อเดือนมีนาคม2563ธนาคารกลางของอิหร่านยื่นคำร้องขอกู้เงินจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.63 แสนล้านบาท จาก ‘โครงการสนับสนุนทางการเงินเร่งด่วน’ (Rapid Financing Initiative) ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างกระทันหันเช่นภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ไอเอ็มเอฟระบุก่อนหน้านี้ว่า พวกเขากำลังหารือกับเจ้าหน้าที่อิหร่านเพื่อตัดสินใจว่าจะสมควรให้กู้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในวันพุธสำนักข่าว วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ของวสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานระบุว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของไอเอ็มเอฟ กำลังวางแผนขัดขวางคำร้องขอกู้เงินของอิหร่าน
อิหร่านยังคงเป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสโควิก-19 รุนแรงที่สุดในตะวันออกกลาง โดยในวันพุธที่ 8 เม.ย. 2563 กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1,997 รายเป็น 67,286 รายแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 121 ศพรวมทั้งหมดเป็น 4,003 ศพ
ด้านประธานาธิบดี ฮัสซัน โรฮานีของอิหร่าน เรียกร้องระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า อิหร่านคาดหวังว่าไอเอ็มเอฟจะปฏิบัติตามหน้าที่ของพวกเขาซึ่งมีข้อผูกมัดทางกฎหมาย “เราเป็นสมาชิกไอเอ็มเอฟ เรายื่นคำร้องขอกู้เงินจากพวกเขา และหากพวกเขาเลือกปฏิบัติระหว่างอิหร่านกับประเทศอื่นๆ มันชัดเจนว่าทั้งเราและความเห็นของสังคมโลกจะไม่ยอมทนต่อเนื่องนี้แน่นอน”