โควิดกระทบหนักภาคธุรกิจอินโดฯ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รายงานว่า ขณะนี้ธุรกิจต่างๆ ในอินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา(โควิด-19) เป็นอย่างมาก นับจากที่อินโดนีเซียประกาศมีผู้ติดเชื้อโควิด 2 รายแรกอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 โดยธุรกิจได้รับผลกระทบด้านกระแสเงินสด พนักงานบางส่วนต้องทำงานที่บ้าน และมีจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้น นอกจากธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม การบิน ที่ได้รับผลกระทบอย่างจังแล้ว ยังมีภาคอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ คือ

 1.อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

 PT Moka Teknologi Indonesia บริษัท start-up ที่ให้บริการเงินสดดิจิตอลสำหรับร้านค้ากว่า 30,000 ราย ในอินโดนีเซีย รายงานการสำรวจ 17 เมือง พบว่า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มใน 13 เมือง มียอดขายลดลงอย่างมาก โดยเมืองสุราบายาในจังหวัดชวาตะวันออกและเกาะบาหลีมียอดขายลดลงมากที่สุด โดยสุราบายาลดลงร้อยละ 26 และบาหลีลดลงร้อยละ 18 ตามด้วยกรุงจาการ์ตา

ขณะที่  Ismaya Group ร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีร้านอาหารกว่า 20 แบรนด์และมีมากกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ และกลุ่มบริษัท Boga Group ที่มีร้านอาหารกว่า 150 ร้าน และมีแรงงานกว่า 5,000 คน เลือกที่จะปิดให้บริการชั่วคราว

2.อุตสาหกรรมค้าปลีก

จากข้อมูลของ Moka อุตสาหกรรมค้าปลีกใน 7 เมืองและ 17 เทศบาลได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของ โควิด-19 ซึ่ง 5 แห่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ กรุงจาการ์ตาตะวันตก กรุงจาการ์ตากลาง เมือง Tangerang ใต้(จังหวัดBanten) เมือง Depok (จังหวัดชวาตะวันตก) และเมืองBandung (จังหวัดชวาตะวันตก) รายได้ลดลงมากที่สุดในกรุงจาการ์ตาตะวันตกลดลงร้อยละ 32 รายได้ต่อวันต่อสาขา นอกจากนี้จำนวนผู้เข้าห้างสรรพสินค้าก็ลดลงทำให้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งปิดให้บริการชั่วคราว แต่เปิดให้บริการส่วนของผู้เช่าที่ให้บริการที่จำเป็นเช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยา

สคต. ณ กรุงจาการ์ตา ได้วิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศไทยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียต้องออกมาตรการการเงิน การคลังต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หากอำนาจซื้อของประชาชนอินโดนีเซียลดลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการนำเข้าสินค้าไทยในอนาคต

ทั้งนี้จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร เผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2563 การค้าไทย-อินโดนีเซีย มีมูลค่าการค้ารวม 2,631.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง -1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกมูลค่า 1,535.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.79%  และไทยนำเข้า 1,096.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง -4.65%

สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปอินโดนีเซีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, น้ำตาลทราย, เม็ดพลาสติก, เคมีภัณฑ์ และอากาศยานและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้า 5 อันดับแรกของไทยจากอินโดนีเซีย ได้แก่ ถ่านหิน, ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์, น้ำมันดิบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์