ตลาดบิวตี้คึก  ลอรีอัล  เร่งสปีด ฝ่าไวรัส

นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่, ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทเร่งปรับการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือวิกฤติโควิด-19 และเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech ในประเทศไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่ที่ปรึกษาด้านความงาม (BA) จัดคอร์สการเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อเพิ่มทักษะให้แก่ที่ปรึกษาด้านความงาม สนับสนุนที่ปรึกษาด้านความงามให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าผ่านหน้าโซเชียลมีเดียและช่องทางออนไลน์ และให้รับบทบาท e-BA เพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับที่ปรึกษาด้านความงาม ในช่วงที่ห้างสรรพสินค้าปิดบริการชั่วคราว

2. จัดโปรแกรม Learning Never Stops สำหรับพนักงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะของพนักงานผ่านหลักสูตรออนไลน์ในช่วงทำงานที่บ้านกับโครงการ Learning Never Stops ผ่าน MyLearning ศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ของพนักงานลอรีอัล และจัด Live Webinar โดยมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ด้วยจำนวนชั่วโมงการเรียนรู้เพิ่มสูงถึงเกือบ 11 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา

3. ขยายตลาดอี-คอมเมิร์ซ โดยร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าด้านอี-คอมเมิร์ซ ทั้ง Shopee Lazada และ Central Online จัดแคมเปญต่างๆ ให้ผู้บริโภคในช่วงที่ต้องอยู่ที่บ้าน และผลักดันช่องทางอี-คอมเมิร์ซอื่นทุกช่องทาง อีกทั้งเร่งเสริมนวัตกรรม Beauty Tech เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้ในภาพรวมยอดขายตลาดอี-คอมเมิร์ซทั้งหมดของบริษัทในช่วงเดือนพฤษภาคมมีอัตราเติบโตสูงเป็นตัวเลขสามหลัก

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกภาคธุรกิจ แต่การล็อกดาวน์ภายใต้สถานการณ์นี้ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะดำเนินธุรกิจช้าลง เพราะต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ ในขณะที่การดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและการดำเนินชีวิตประจำวันยังคงเป็นสองสิ่งจำเป็นที่มาคู่กันเสมอ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมพร้อมความมุ่งมั่นกับพันธสัญญาด้านความยั่งยืนและการช่วยเหลือสังคม”

อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมา ภายใต้ความมุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำด้าน Beauty Tech ของประเทศไทย ลอรีอัลนำเสนอเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ส่งมอบประสบการณ์ด้านความงามที่ทันสมัย พร้อมกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทย

สำหรับตลาดความงามในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 2.18 แสนล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้น 6.7% โดยกลุ่มผลิต ภัณฑ์ดูแลผิว มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 42% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามีสัดส่วน 81% เป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,577 วันที่ 24-27 พฤษภาคม 2563