ส่องกิจกรรมทำใจใสๆ ทั่วไทย อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษานี้ไปไหนดี
เนื่องในเทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาควบกับ เข้าพรรษา ปี 2563 นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ ได้ จัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กับเทศกาลสำคัญดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. - 6 ก.ค. 2563 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งประชาชนและพุทธศาสนิกชนที่สนใจ สามารถร่วมงานและกิจกรรมกุศลต่าง ๆ ได้
ส่วนกลาง วธ.ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์หล่อเทียนพรรษาและนำเทียนพรรษาไปถวายวัดในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 2563 โดยมีหน่วยงานในกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้แทนไปร่วมเป็นเจ้าภาพถวายเทียนพรรษา 10 วัด ได้แก่
1.กรมการศาสนา ที่วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง และวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน
2. กรมศิลปากร ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร
3. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง
4. สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ
5.สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร
6.ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ที่วัดชัยพฤกษมาลา เขตตลิ่งชัน
7.ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ที่วัดเสมียนนารี เขตหลักสี่
8.หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ
9.เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ที่วัดสามพระยา เขตพระนคร
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และชุมชนต่างๆในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา สืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา พุทธศักราช 2563 ด้วย เพื่อให้ “พลังบวร” ในชุมชนเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นแกนกลางในการส่งเสริมประพฤติปฏิบัติถูกต้องเหมาะสมตามหลักธรรมศาสนา น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สืบสานรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม มีจิตอาสา ความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนภูมิภาค วธ.ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด เช่น พิธีหล่อเทียน การแห่เทียนพรรษา การถวายเทียนพรรษา การทำบุญตักบาตร การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีเวียนเทียน การปฏิบัติธรรม การประดับธงชาติและธงธรรมจักร การจัดนิทรรศการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนรักษาศีล ลด ละ เลิก อบายมุข ตลอดพรรษา
โดยในปีนี้การจัดกิจกรรมทุกประเภท ได้ดำเนินการตามข้อปฏิบัติและคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคำแนะนำเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ประเพณีต่างๆ พิธีทางศาสนาในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของ วธ.
สำหรับกิจกรรมในส่วนภูมิภาคนั้น มุ่งเน้นการสืบทอดรักษาประเพณีอันดีงามและสืบทอดพระพุทธศาสนาจากระดับท้องถิ่นให้ยั่งยืนระดับประเทศและระดับนานาชาติ เช่น
ภาคเหนือ ได้แก่ ประเพณีตักบาตรเทียน จังหวัดน่าน
ภาคกลาง ได้แก่ ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และประเพณีตักบาตรดอกไม้ วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
ภาคอีสาน ได้แก่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี และประเพณีแห่เทียนพรรษา ตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์
ภาคใต้ ได้แก่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.พร้อมส่งเสริมให้มีการจัดงานเทศกาลประเพณีของท้องถิ่นอย่างถูกต้องตามหลักศาสนา ศิลปวัฒนธรรมประเพณีและตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการทำบุญตักบาตร หล่อเทียน เวียนเทียน ถวายเทียนพรรษา ไหว้พระ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา หรือกิจกรรมอื่นใด ช่วยกันสืบสาน รักษา ต่อยอดไปสู่คนรุ่นหลัง
"ปีนี้ได้มอบหมายให้วัฒนธรรมจังหวัด ร่วมหาแนวทางและเข้าไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและสธ.จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำทางภูมิปัญญา ผู้นำท้องถิ่นว่าสามารถจัดกิจกรรมได้หรือไม่ หากสามารถจัดได้จะมีแนวทางจัดอย่างไร ขอย้ำให้มีมาตรการทางสาธารณสุขป้องกันอย่างเคร่งครัด" ปลัด วธ. กล่าว
ด้านนางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จ.อุบลราชธานี ในปีนี้ ต้องปรับรูปแบบใหม่ ไม่มีการจัดขบวนแห่ แต่ยังคงจัดงานเพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิม ภายใต้ชื่องาน “อนุรักษ์เทียนพรรษา มุทิตาหลวงปู่มั่น” ระหว่างวันที่ 3 - 7 ก.ค. 2563 ณ ทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี
และเพื่อเป็นต้นแบบการจัดงานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณีรูปแบบ New Normal หรือการท่องเที่ยววิถีใหม่ ททท.จึงได้จัดทำระบบ Live Map ขึ้นมา เพื่อใช้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยจะมีการลงทะเบียนล่วงหน้าหรือแจ้งความประสงค์ก่อนเข้างาน ทั้งนี้ จะมีการเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ ครั้งละไม่เกิน 2,000 คน ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 7 ก.ค. 2563 ที่ www.thailandfestival.org/งานเทียนพรรษาอุบลราชธานี 2563 หรือ โทร.045-243-770
สำหรับ วันอาสาฬหบูชา ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 (ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองหน (อธิกมาส) กำหนดเป็นวันเพ็ญเดือน 8 หลังแทน) ก่อนเข้าพรรษา 1 วัน ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค. มีความสำคัญคือ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา ทรงแสดงธรรมครั้งแรก (ปฐมเทศนา) "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" เป็นวันที่พระสงฆ์องค์แรกเกิดขึ้น คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ และเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ส่วน วันเข้าพรรษา ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 6 ก.ค. คือช่วงเวลาที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนา อธิษฐานอยู่ประจำในวัดหรือเสนาสนะที่คุ้มแดดคุ้มฝนได้แห่งหนึ่ง ไม่ไปค้างแรมในที่อื่นตลอด 3 เดือนในฤดูฝน ระหว่างแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จึงเป็นช่วงเวลาที่พระภิกษุจะได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและประพฤติปฏิบัติธรรม ส่วนพุทธศาสนิกชน ก็จะได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญกุศล ทำบุญตักบาตร รักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม เจริญภาวนาตลอดพรรษา และสืบสานประเพณีการหล่อเทียนพรรษา การถวายผ้าอาบน้ำฝน และประเพณีแห่เทียนพรรษา
ข้อมูลอ้างอิง
ข้อมูลงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดต่าง ๆ ทั่วไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย