นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดราชการ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2563 ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สำหรับสถานการณ์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.00 น.) พบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 2,272,275 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 7.79% ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล มีปริมาณจราจรเข้า - ออกกรุงเทพฯ 2,684,726 คัน ต่ำกว่าประมาณการ 15.81% เกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม 54 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ได้รับบาดเจ็บ 47 ราย โดยเกิดขึ้นบนทางตรงมากที่สุด คิดเป็น 78.95% รถปิคอัพเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คิดเป็น 39.65% และสาเหตุของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็น 59.65%
ทั้งนี้ จากรายงานดังกล่าวพบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก จึงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เน้นความปลอดภัยของทั้งผู้ปฏิบัติงานให้บริการและผู้โดยสารด้วยมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ทั้งภายในรถโดยสารและที่นั่งคอยภายในสถานีฯ ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเช็คอิน – เช็คเอาท์ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการและที่สถานีฯ กรณีที่ไม่สามารถสแกน QR Code ได้ ให้กรอกแบบฟอร์ม ต.8-คค จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ผู้โดยสาร ทำความสะอาดยานพาหนะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งก่อนและหลังการให้บริการเป็นประจำ สำหรับการให้บริการภายในสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า และท่าเรือโดยสารทุกแห่งได้เน้นย้ำให้ทำความสะอาดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะจุดที่สัมผัสบ่อยครั้ง รวมทั้งได้ติดตั้งที่กั้นแผ่นใสบริเวณเคาน์เตอร์ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการด้วย