หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป มุ่งสร้างวิถีชีวิตอัจฉริยะ ด้วยแนวคิด “ชีวิตเอไอ ไร้รอยต่อ” หรือ “Seamless AI Life” ต่อยอดจากการเป็นผู้ส่งมอบสมาร์ทโฟนแถวหน้าของตลาด ด้วยการเพิ่มเติมสมาร์ทดีไวซ์และอุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อบูรณาการการใช้งาน ผ่านการเชื่อมต่อ แบ่งปันคอนเทนต์และเสริมศักยภาพของแต่ละอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมนำร่องด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ตอบสนองเทรนด์ความต้องการแห่งอนาคต
จุดแข็งของหัวเว่ยคือเป็นการเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี ที่มีระบบเครือข่ายซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นของตนเอง ซึ่งนับเป็นความได้เปรียบอย่างยิ่งในการสร้างอีโคซิสเต็มที่ไร้รอยต่อภายในอาณาจักรของหัวเว่ย ภายใต้กลยุทธ์ธุรกิจที่ชื่อว่า“1+8+N” ซึ่งจะกำหนดแนวทางการรุกตลาดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอัจฉริยะของหัวเว่ยตลอดระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเลข 1 หมายถึง สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์หลักที่จะเป็นหัวใจในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของดีไวซ์อื่นๆ ขณะที่ 8 หมายถึงสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อีก 8 อย่างที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ได้แก่ แล็ปท็อป แท็บเล็ตสมาร์ทวอทช์ หูฟังไร้สาย แว่นตา ทีวีหรือหน้าจออัจฉริยะ ลำโพง และรถยนต์ ส่วน N หมายถึง อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) และเครื่องหมาย "+" หมายถึง เครือข่ายการเชื่อมต่อในบริเวณกว้าง (WAN) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้ เช่นHuawei Share และ HiLink ที่จะผสานเครือข่ายอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยให้สมบูรณ์ เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหล เต็มประสิทธิภาพ
สืบเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครือข่าย 5G ในประเทศไทย และเทรนด์การใช้งานของผู้บริโภคปัจจุบันที่นิยมมีอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และสมาร์ทแก็ดเจ็ตมากกว่า 1 ชิ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้สมาร์ทดีไวซ์และอุปกรณ์ IoT ภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นหัวเว่ยคอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป จึงผลักดันผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทเข้าสู่ตลาดในหลากหลายระดับราคา เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างเท่าเทียม โดยมีสมาร์ทโฟนสำหรับทุกกลุ่มผู้ใช้ ไล่เรียงตั้งแต่รุ่นระดับเรือธง P Series และ Mate Series รุ่นกลางอย่าง nova Series และรุ่นเล็กราคาสบายกระเป๋าอย่าง Y Series นอกจากนี้ยังมีแล็ปท็อป แท็บเล็ต ไปจนถึงกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่(wearable) อย่างสมาร์ทวอทช์ สมาร์ทกลาส (แว่นตาอัจฉริยะ) และอุปกรณ์เสริม(gadget) เช่น หูฟังไร้สาย เป็นต้น โดยอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหมดจะมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อ เพื่อแบ่งปันข้อมูล คอนเทนต์ และยกระดับศักยภาพ ด้วยการแชร์ความสามารถระหว่างอุปกรณ์ตามกลยุทธ์ที่ได้วางไว้
สมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ เหล่านี้ของหัวเว่ยจะมาพร้อมกับ HUAWEI Mobile Service ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อและใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกันได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วผ่านเครือข่าย 5G, ระบบปฏิบัติการ EMUI และการต่อยอดไปถึงบริการ HUAWEI Assistant ทั้งนี้ การเชื่อมต่ออุปกรณ์มีหลากหลายฟีเจอร์ อาทิHUAWEI Share ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ แบ่งปันข้อมูล แชร์ศักยภาพการทำงานระหว่างอุปกรณ์ ผ่านการแตะอุปกรณ์เข้าด้วยกันเพียงสัมผัสเดียว (One Tap) หมดปัญหาความยุ่งยากของการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์และแก้ปัญหาความไม่เสถียรไปโดยปริยาย
กลยุทธ์ 1+8+N เป็นจุดเริ่มต้นของหัวเว่ยในการสร้างอีโคซิสเต็มอันสมบูรณ์แบบให้กับการใช้ชีวิตไร้รอยต่อในโลกแห่งอนาคตและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์สมาร์ทดีไวซ์ในปัจจุบันไปจนถึงในอีก 10 ปีข้างหน้า ช่วยสร้างการติดต่อสื่อสารและการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพสูง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประสิทธิภาพการทำงาน และความสัมพันธ์ให้โลกของเรายิ่งใกล้กันมากขึ้น ตามคำกล่าวที่ว่า “Together in Just One Tap”
โดยขณะนี้หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป มีแคมเปญ Together 2020 ที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้บริโภคทั่วไปและแฟนๆ ของแบรนด์ได้มีโอกาสใช้งานหลากหลายอุปกรณ์ รวมถึงเชื่อมต่อการทำงานระหว่างอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น จึงจัดโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ครบชุดทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในทุกระดับ ตอบโจทย์การใช้งานทุกเพศทุกวัย พร้อมของสมนาคุณและส่วนลดสูงสุดถึง 20% สําหรับซื้ออุปกรณ์เสริมของหัวเว่ยหรือแก็ดเจ็ต รวมถึงสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือนสำหรับบัตรเครดิตและผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ ณ Huawei Experience Store ที่ร่วมรายการ โดยโปรโมชั่นสุดคุ้มนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค.นี้