คดี “บอส อยู่วิทยา” ต้องย้อนดูตั้งแต่ต้นทาง นายกฯย้ำ "ตำรวจ" ต้องรอบคอบ 

วันที่ 30 ก.ค. เมื่อเวลา 11.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา" ภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ในเรื่องคดีที่มีปัญหาเกิดขึ้นขอให้ใจเย็นๆนิดนึง รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะ ซึ่งมีกำหนดเวลาในการพิจารณาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอัยการ ศาล หรือของ สตช.โดยต้องดูความเป็นมา และข้อกฎหมายหลายตัว ขณะเดียวกัน ในส่วนของนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะทำงานไปแล้ว ซึ่งมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน และมีคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายอยู่ด้วย 

"ซึ่งต้องดูขั้นตอนต่างๆเหล่านี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร รวมถึงย้อนกลับไปดูต้นทางอีกครั้ง มีปัญหาตรงไหนอย่างไร เพราะต้องแก้ทั้งระบบด้วยเพื่อให้เกิดความชอบธรรมให้มากที่สุด ได้รับการยอมรับเชื่อมั่น ตนได้ย้ำในที่ประชุมไปว่าตำรวจเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นการทำคดี จัดทำสำนวนต่างๆจะต้องรอบคอบ ระมัดระวัง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การกระทำความผิดต่างๆได้รับการละเว้น อะไรต่างๆเหล่านี้ ที่มีหลายกลไกด้วยกัน ตนขอเรียนเพียงเท่านี้"นายกรัฐมนตรี กล่าว

พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะกำกับดูแลสตช. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าทีตำรวจทำหน้าที่ให้โปร่งใสประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ให้ความเป็นธรรม ไม่ว่าจะคนใดก็ตามที่เป็นคนไทย อยู่ในประเทศไทยต้องเคารพกฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่ในปัจจุบัน ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ถูกต้องชอบธรรม 

ฉะนั้นหลายคนทราบดีว่ากฎหมายมี แต่ยังฝ่าฝืนกันอยู่ ก็จำเป็นต้องมีการดำเนินการ ในหลายกรณีที่เกิดขึ้น เพราะกฎหมายจะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อย เพื่อคนในชาติของเรา ซึ่งมีกว่า60 ล้านคน หากบ้านเมืองไมมีเสถียรภาพ มีปัญหามาก สิ่งต่างๆที่จะพัฒนาทำเพื่ออนาคต ในวันข้างก็ทำไม่ได้ ปัญหาเดิมๆก็ต้องพยายามแก้ไขให้ได้ ปัญหาใหม่ก็ต้องลดให้น้อยที่สุด ฝากขอความร่วมมือสื่อมวลชนด้วย สุดแล้วแต่ท่าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตระกูล 'อยู่วิทยา' ร่อนจม.เปิดผนึก ลอยแพ 'บอส กระทิงแดง' 

คดี“บอส อยู่วิทยา”ตั้งกก.สอบแค่เกมซื้อเวลา

คดี"บอส อยู่วิทยา" ตร.ลั่นจบแล้วโยนครอบครัวฟ้องเอง

“สมชาย”แนะเร่งนำคดี“บอสกระทิงแดง”ขึ้นสู่ศาลคืนความยุติธรรมสังคม

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการประชุมทั้งก.ตร. และ ก.ต.ช.ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยได้เน้นย้ำเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายทางด้านเทคโนโลยีที่วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงจำเป็นจะต้องมีการปรับหน่วยงานให้เหมาะสมในการดำเนินการ ในการจัดตั้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เนื่องจากวันนี้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เมื่อเปรียบเทียบคดีในช่วงนี้กับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราจึงจำเป็นต้องปรับปรุงองค์กรของเราให้มีความเหมาะสม ทั้งกับคนและเครื่องหมายเครื่องมือต่างๆไม่ได้เพิ่มบุคลากรแต่อย่างใด แต่เป็นการปรับเกลี่ยภายในสตช.เอง

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มีพิจารณาเรื่องของการลงโทษทางวินัย ได้ให้แนวทางไปว่าต่อไปนี้ขอให้สตช.ให้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ว่าในแต่ละเดือนได้ทำอะไรไปบ้าง อย่างไร เป็นคดีประเภทไหน ปลดไปเท่าไหร่ อุทธรณ์เท่าไหร่ต้องมีรายละเอียด วันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศเราด้วยข้อมูลที่สมบูรณ์ไม่อย่างนั้นประชาชนอาจจะไม่ทราบและไม่รู้ เพราะบางเรื่องเปิดเผยไม่ได้ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ใดทำไม่ถูกต้องก็ต้องถูกลงโทษตามสถานไป