นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การชุมนุมของนักศึกษาเริ่มขยายวงและอาจจะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่จะมีผลกระทบอย่างแน่นอนหากการชุมนุมยืดเยื้อรุนแรง โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจจะมีการย้ายฐานการผลิต รวมถึงผลกระทบในส่วนของการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
“วันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาทางออกเพื่อไม่ให้ประเทศบอบช้ำเสียหาย โดยสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเปิดเวทีรับฟัง เจรจากับกลุ่มนักศึกษา จึงอยากให้ทุกฝ่ายเร่งเจรจาหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรง ตนเชื่อว่า เราสามารถหาทางออกร่วมกันได้ หากทุกฝ่ายยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก”
นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มนักศึกษานั้น วันนี้ทุกฝ่ายก็เห็นด้วยในหลักการแล้ว และอยู่ในช่วงของการดำเนินการ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรมนูญนั้น ที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อหารือ โดยมีการเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 ตั้งส.ส.ร.ขึ้นมา เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จก็ยุบสภา เลือกตั้งใหม่
ดังนั้น เมื่อ 3 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาได้รับการสนองตอบ ก็ควรจะจบและยุติการชุมนุม รัฐบาลจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาโควิด-19 ต่อไป ขณะที่ฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะคณะก้าวหน้านั้น ควรที่จะยุติการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งเช่นกัน ขอให้เห็นแก่ประเทศและประชาชนบ้าง