หลังจากวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทางโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 (Covid-19 ) ตามที่ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการ
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ได้ปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟต์โลน (Soft Loan) วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 10,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว วงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้มีการขยายขอบเขตคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับอนุมัติสินเชื่ออีกด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้มากขึ้น
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และกระทบภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทบทั้งหมดรวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ดังนั้นธนาคารออมสินจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการเงินกู้ซอฟต์โลนที่รัฐบาลต้องการให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือผ่านมาตรการดังกล่าวนี้ จะเป็นการบรรเทาผลกระทบและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่เดือดร้อนลงได้ไม่มากก็น้อย เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีความคล่องตัวจนกลับสู่สถานะปกติได้ต่อไป”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือซัพพลายเชน (Supply Chain) ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 (Covid-19 ) วงเงินกู้สูงสุดรายละ 20 ล้านบาท
โดยธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อให้กับสถาบันการเงินทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐ ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อที่สถาบันการเงินนั้นจะนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการ ในอัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ช่วงกลางเดือนกันยายน 2563 นี้
ด้านโครงการ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว วงเงิน 5,000 ล้านบาท เน้นให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก/ขนาดย่อม ของภาคการผลิต การบริการ การพาณิชย์ และซัพพลาย เชน ( Supply Chain )ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ เช่น ร้านอาหาร สปา นวดแผนไทย รถรับจ้างนำเที่ยว บริการที่พัก เกสต์เฮาส์ โฮสเทล เป็นต้น เพื่อให้ธุรกิจได้ใช้วงเงินสินเชื่อเป็นทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง
โดยผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ให้วงเงินสูงสุดรายละไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปีตลอดอายุสัญญา (5 ปี) ใช้บุคคลค้ำประกัน และปลอดชำระเงินต้น 1 ปี โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ก่อนที่ SMEs Call Center โทร. 02-299-8899