“มหาดไทย” สั่งทุกจังหวัด สแกนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

09 ก.ย. 2563 | 03:59 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ย. 2563 | 11:17 น.

“มหาดไทย” สั่งทุกจังหวัด สแกนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 กันยายน 2563) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศเพื่อนบ้านทางด้านตะวันตกของประเทศไทย และอาจมีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย โดยผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมิได้ผ่านมาตรการคัดกรองโรคตามที่ประเทศไทยกำหนด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นมิให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซึ่งจะนำไปสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย

ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ 3 มาตรการเข้มข้น ได้แก่

 

1.ให้จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระมัดระวังไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค

 

2.ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนซึ่งมีเส้นทางคมนาคมทั้งสายหลัก สายรอง ต่อเนื่องกัน จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ตรวจตรา เฝ้าระวัง และสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หากพบ ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข

 

3.ให้ทุกจังหวัดบูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งในสถานประกอบการและสถานที่ทำงานที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เช็ก ครม.อนุมัติแต่งตั้ง "ผู้ว่าฯ-ผู้ตรวจราชการ"มหาดไทย รวม 26 ตำแหน่ง

มติ ครม. เคาะโยกย้าย "36 บิ๊กมหาดไทย"

มท.เตรียมจ้างงาน3หมื่นอัตรา กระตุ้นศก.ภาคครัวเรือน-ชุมชน

“นิพนธ์”ลุยสกลนครกำชับแผนรับมือน้ำท่วม

 

หากพบให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง หากพบหรือมีบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทางสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการต่อไป