ธุรกิจครอบครัวหลังจากก่อตั้งกิจการแล้วต้องมีการส่งผ่านสิ่งต่างๆ ไปให้ทายาทรุ่นต่อไปด้วยเสมอ การจะส่งผ่านความมั่งคั่งไปให้ทายาทนั้นว่ายากแล้ว สิ่งที่ยากกว่าคือการสอนให้ทายาทมีความสามารถในการบริหารความมั่งคั่งด้วยมุมมองที่ถูกต้อง จากการสำรวจกลุ่มทายาทรุ่นใหม่โดย Campden Wealth รายงานไว้ในงานวิจัยเรื่อง RBC The Next Generation of Global Enterprising Families-Shaping Tomorrow, Today 2020 ว่า
บรรดาทายาทรุ่นใหม่เหล่านี้ได้พูดคุยกับพ่อแม่ครั้งแรกเกี่ยวกับความมั่งคั่งของครอบครัวและความรับผิดชอบก่อนจะอายุ 40 ปี (80%) โดยเฉลี่ยมีอายุ 31 ปี เกือบ 30% เริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการความมั่งคั่งจากครอบครัวหรือสำนักงานครอบครัวตั้งแต่ 18 ปี และครึ่งหนึ่งของบทเรียนเหล่านี้เริ่มต้นแบบไม่เป็นทางการตั้งแต่ก่อนอายุ 12 ปี ในปัจจุบันพบว่า 71% ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาเหล่านี้ในวิทยาลัย/มหาวิทยาลัยด้วย
Selin Yigitbasi-Ducker ทายาทรุ่นที่ 4 ของกลุ่มบริษัท Yasar Holdings ในตุรกีให้สัมภาษณ์ว่าอายุ 25 ถึง 30 ปีเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับทายาทรุ่นต่อไปที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความมั่งคั่งของครอบครัวและควรได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีบริหารอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีก รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความมั่งคั่ง และหากมีการฝึกงานในระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัยจะดีมาก แม้ว่าทายาทคนนั้นจะไม่สนใจเรื่องนี้มากนักก็ตาม
แต่หากมาจากธุรกิจครอบครัวแล้วทายาทรุ่นต่อไปทุกคนต้องรู้วิธีการบริหารความมั่งคั่งและควรได้มีโอกาสฝึกฝนเพื่อให้มีประสบการณ์ ทายาทรุ่นใหม่ๆ ต้องได้รับการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบในการรักษาความมั่งคั่งของครอบครัว ทั้งผ่านการศึกษา การฝึกอบรม การเรียนรู้ในขณะปฏิบัติงาน (Learning on the job) หรือหลายวิธีรวมกัน และหากครอบครัวเน้นย้ำความสำคัญให้มากและเปิดโอกาส จะทำให้ทายาทเปิดใจกว้างในการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งจะมีค่าอย่างมากสำหรับอนาคตของธุรกิจครอบครัว
Jouko Salo ทายาทรุ่นที่ 4 และซีอีโอของ Hollming Oy/Ltd ในฟินแลนด์ให้สัมภาษณ์ ว่าอายุเฉลี่ยที่ระบุในผลการวิจัยค่อนข้างช้า แต่คาดว่าน่าจะมีความแตกต่างกันในหลายครอบครัว ทั้งนี้เห็นว่าหากทายาทรุ่นต่อไปถูกคาดหวังให้เตรียมตัวรับหน้าที่จัดการทรัพย์สิน ก็ควรมีเวลาเพียงพอที่จะเรียนรู้และเตรียมตัวและรู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ในทางกลับกันก็อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ หากสื่อสารเรื่องนี้เร็วเกินไปจนทำให้เกิดความคาดหวังมากเกินไปและนำไปสู่การตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง
อย่างไรก็ตามทายาทรุ่นต่อไปควรมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับส่วนแบ่งของความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะจัดการความมั่งคั่งให้สอดคล้องกับค่านิยมครอบครัว เพราะหากไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับค่านิยมหรือคำจำกัดความของชีวิตที่ดีของสมาชิกแต่ละคน ความรับผิดชอบมักจะเริ่มต้นที่การมุ่งเน้นตัวเลขมากเกินไปในการรักษาความมั่งคั่งแทนที่จะรักษาค่านิยมและวัฒนธรรมของครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกและทำให้ครอบครัวนั้นๆแตกต่างจากครอบครัวอื่น
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,615 วันที่ 4 - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง