นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินโครงการคนละครึ่งให้นายอาคม เติม พิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับทราบ โดยพบร้านค้าทำผิดเงื่อนไขโครงการ เพราะไม่เป็นร้านค้าจริง จำนวน 2 ราย ทางธนาคารกรุงไทย จึงได้ระงับการใช้ระบบแอพลิชั่นถุงเงิน และทำการยึดเงินในแอพทันที และไม่ให้เข้าร่วมโครงการนี้อีกต่อไป ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายอยู่ หากพบว่าผิดจริงตามกฎหมายฉ้อโกง ก็จะดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดด้วย
“กรุงไทยมีโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพทุกธุรกรรมนั้น มีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือผิดสังเกตหรือไม่ เช่น มีเงินหมุนเวียนเข้าเยอะเกินไป ทางกรุงไทยและกระทรวงการคลังก็จะส่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายทันที”นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบร้านค้า ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยกระทำผิดอีกกว่า 10 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่วมกันของกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยอยู่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะปิดแอพถุงเงิน และยึดเงินในระบบต่อไป