สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือนกันยายน 2563 โดยนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 858 ราย ใน 72 จังหวัด
ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 508 ราย รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 134 ราย ภาคเหนือ จำนวน 114 ราย ภาคตะวันออก จำนวน 60 ราย และภาคใต้ จำนวน 42 ราย ตามลำดับ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 328,300 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 8,250.38 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 25,130.61 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น 851 ราย ใน 75 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 775 ราย ใน 72 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา จำนวน 67 ราย กรุงเทพมหานคร จำนวน 58 ราย ขอนแก่นและร้อยเอ็ด จำนวน 43 ราย
(2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 94 ราย ใน 32 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 83 ราย ใน 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา จำนวน 14 ราย อุดรธานี จำนวน 8 ราย และอุบลราชธานี จำนวน 7 ราย
(3) ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2563 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 149,860 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 3,512.16 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 - 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 20,246 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 523.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.91 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม
และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 23,920 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 569.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.20 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับยอด NPL ของเดือนกรกฎาคม 2563 (ร้อยละ 16.60)
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 7,476 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2563 จำนวน 121 ราย การลดภาระหนี้นอกระบบโดยการไกล่เกลี่ย การเพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยองค์กรการเงินชุมชน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 ,ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 0 2255 1898
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสายด่วน 1155 ,ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ,ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359 ,ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร. 0 2575 3344 และ สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน โทร. สายด่วน 1359