นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ “สศช.” (สภาพัฒน์) เปิดเผยว่า สศช. ได้ดำเนินการจัดทำหนังสือ “แนวพระราชดำริการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่ให้ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดจนดำเนินตามรอยพระยุคลบาท โดยนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศและตนเองต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้นำหนังสือดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมวงศานุวงศ์ และส่งให้องคมนตรี คณะรัฐมนตรี หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ตลอดจนห้องสมุดประจำจังหวัดและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
“สศช. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พสกนิกรขาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนเป็นที่ตระหนักแก่ชาวโลกว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ทรงนำความสุขอย่างยั่งยืนสู่ชาวไทยและชาวโลก ประชาชนที่สนใจขอรับได้ตั้งแต่บัดนี้"
สำหรับหนังสือเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อดีตเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานที่ปรึกษาดูแลการจัดทำหนังสือเล่มนี้อย่างใกล้ชิด ดร.สุเมธ เป็นผู้ถวายงานใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เล่าถึงความประทับใจในการทรงงาน และพระเมตตาของพระองค์ต่อปวงประชาชาวไทย โดยขอยกตัวอย่างข้อความบางส่วน ดังนี้
“...เวลาทรงงานในชนบทจะเสด็จพระราชดำเนินทั้งครอบครัว โดยแต่ละพระองค์จะทรงมีหน้าที่แตกต่างกันไป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงงาน ทอดพระเนตรกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ทรงช่วยเหล่าแม่บ้าน ส่วนทูลกระหม่อมพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ตามเสด็จฯ ทรงแบ่งหน้าที่กัน ทรงงานทั้งครอบครัว ไม่มีสถาบันไหนในโลกนี้ที่ทำอย่างนี้...”