หลังจากโครงการ "คนละครึ่ง" เปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และได้รับสิทธิ์สามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" มาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.63 ล่าสุด ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,526,815 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 33,754 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 17,236 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 16,518 ล้านบาท หรือมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวัน 181 บาท
ส่วนความคืบหน้าโครงการ "คนละครึ่ง"เฟส 2 กระทรวงการคลังเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ และเปิดให้ลงทะเบียนในวันรุ่งขึ้นหรือ 16 ธ.ค.นี้ โดยจะให้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
โครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะขยายสิทธิ์ผู้เข้าร่วมโครงการอีก 5 ล้านราย วงเงินอุดหนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท เปิดลงทะเบียนวันที่ 16 ธ.ค.2563 ส่วนผู้ลงทะเบียนรายเดิมจะได้เพิ่มอีกคนละ 500 บาท เบื้องต้น จะมีปุ่มให้ผู้ลงทะเบียนรายเดิมกดยืนยันรับสิทธิเฟส 2 บนเว็บไซต์ WWW.คนละครึ่ง.Com ในวันที่ 16 ธ.ค. แล้วจะได้รับเงิน 500 บาท เพิ่มในวันที่ 1 ม.ค.เช่นกัน
ทั้งนี้ยังเปิดให้ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่เหลือในเฟสแรก (อีก 475,185 คน ) โดยจะนำมาเปิดลงทะเบียนพร้อมกับเฟส 2 ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ด้วย ทำให้มีจำนวนที่เปิดลงทะเบียนมากกว่า 5 ล้านคน
สำหรับร้านค้า"คนละครึ่ง" รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ได้มากกว่า 1 ล้านร้านค้า เพื่อรองรับผู้ใช้สิทธิ์รวม 15 ล้านคน (รวมเฟสแรกและสอง ) ขณะนี้ยังเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
"โครงการคนละครึ่ง สามารถกระตุ้นกำลังซื้อให้กับร้านค้าได้จริง ร้านค้าที่เข้าร่วมบางแห่งมีรายได้ถึววันละ 1 หมื่นบาท อย่างไรก็ดี ยังมีร้านค้าที่ทุจริตโครงการนี้อยู่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบพฤติกรรมที่ใช้งานไม่ปกติอยู่ตลอด แต่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสอดส่อง และไม่ควรสนับสนุนร้านค้าที่เอาเปรียบ ต้องร่วมมือกันกำจัดออกไป เนื่องจากรัฐตั้งใจช่วยเหลือร้านค้า และประชาชนจริงๆ"นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว
ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" สมัครง่าย ๆ ดังนี้
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือแจ้งผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
เงื่อนไข
- เป็นกิจการประเภท ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม/สินค้าทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อย
- ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
- ไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจเฟรนไชส์
- มีบัญชีธนาคารกรุงไทยแบบบุคคลธรรมดา และสมัครใช้บริการแอปฯถุงเงิน (เฉพาะร้านที่ยังไม่เคยใช้บริการ) จากนั้นจะได้รับแผ่นป้าย"ร้านนี้เข้าร่วมโครงการ"เพื่อนำไปแสดงที่ร้านของคุณ เมื่อประชาชนมาใช้สิทธิ์ ให้ร้านค้าเปิดแอปฯถุงเงิน แล้วกดจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระผ่าน QR Code จากนั้นจะได้รับเงินในวันรุ่งขึ้นทันที
ร้านค้าคนละครึ่ง จะได้รับเงินจากการขายสินค้า ในวันถัดไป โดยร้านค้าจะได้รับเงินแยกเป็นสองส่วน
ส่วนที่ 1 เงินส่วนที่ประชาชนชำระ (G-Wallet)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเช้ามืด (02:00 – 06:00 น.) ของวันถัดไป
ส่วนที่ 2 เงินส่วนของภาครัฐ (สิทธิคนละครึ่ง)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเย็น (17:30 – 19:00 น.) ของวันถัดไป