กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตอกย้ำมาตรการสุขอนามัยเชิงรุก KING POWER CARE POWER ที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ปรับเวลาให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00- 20.00 น. ที่สาขารางน้ำและมหานคร โดยสาขาภูเก็ตให้บริการถึง 18.00 น. พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อร่วมกันควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ดังเช่นที่ผ่านมา ตามมาตรการสุขอนามัยเชิงรุก KING POWER CARE POWER ที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสร้างความอุ่นใจ และความปลอดภัยให้ลูกค้าที่เข้าใช้บริการธุรกิจในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อันได้แก่ ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมือง (ดิวตี้ฟรี) รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ปรับเวลาให้บริการสำหรับธุรกิจต่างๆในกลุ่มบริษัทฯ ดังนี้
ร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมือง
ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมือง สาขารางน้ำ สาขามหานคร เปิดให้บริการเวลา 11.00-20.00 น.
ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมือง สาขาพัทยาและภูเก็ต เปิดให้บริการเวลา 11.00-18.00 น.
ส่วนร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมือง สาขาศรีวารี และ พัทยา ยังคงปิดให้บริการ
ภัตตาคารและศูนย์อาหาร
ศูนย์อาหารสตรีทฟู้ดส์ชั้นนำ ไทย เทสต์ ฮับ (THAI TASTE HUB) สาขารางน้ำ สาขามหานคร คิวบ์ เปิดให้บริการเวลา 11.00-20.00 น.
ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว
ห้องอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ (ชั้น76) เปิดให้บริการระหว่างเวลา 11.30 – 21.00 น. โดยปิดให้บริการในส่วนของมหานคร สกายวอล์ค และมหานคร รูฟท็อป บาร์
โรงแรม Pullman คิง เพาเวอร์ ร้านอาหารควิซีนอันปลั๊ก เท็นชิโนะ เท็นโกะ โอมากาเสะ และ เดอะจังชั่น เปิดให้บริการตามปกติ แต่งดบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจัดโต๊ะเก้าอี้เว้นระยะห่าง และงดรับจัดงานเลี้ยงและงานแต่งงานชั่วคราว เปิดรับเฉพาะงานประชุม จัดโต๊ะและเก้าอี้แบบเว้นระยะห่าง ชุดขนมเบรค เสิร์ฟเป็นแบบกล่องเฉพาะบุคคล รวมถึงฟิตเนสและสปา ปิดให้บริการชั่วคราวตามประกาศของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เน้นย้ำแนวทางมาตรการสุขอนามัย KING POWER CARE POWER สร้างความ ‘มั่นใจ’ แบบ “การ์ดไม่ตก” และปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยในพื้นที่ด้วยความเคร่งครัดมาอย่างต่อเนื่องด้วย 4 แนวทางสำคัญ ได้แก่ Safety Place ให้ความสำคัญของความสะอาด ปลอดเชื้อของอุปกรณ์ เครื่องใช้ ตลอดจนพื้นที่ให้บริการ, Screen & Scan ให้ความสำคัญในการคัดกรองและติดตามอย่างเข้มข้นทั้งระบบ, Social Distancing ลดความแออัดและลดการสัมผัส ด้วยระบบการจัดการพื้นที่ และการให้บริการแบบ Safety Service & Payment ที่สะอาด ปลอดเชื้อและปลอดภัย
ในส่วนการคัดกรองเพื่อการติดตาม รวมถึงการลดความแออัดในพื้นที่ เป็นแนวทางสำคัญมากในการบริหารจัดการที่เข้มข้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจากที่กลุ่มบริษัทฯ นำจอแสดงผลในรูปแบบ Real Time Dashboard พัฒนาเชื่อมโยงกับระบบแอปพลิเคชั่น ‘ไทยชนะ’ ในการแสดงผลจำนวนผู้เข้าใช้บริการในพื้นที่ของสาขารางน้ำ เป็นสิ่งที่เชื่อมั่นได้ว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าวางแผนใช้บริการในพื้นที่ได้อย่างอุ่นใจ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังสามารถบริหารจัดการจำนวนคนเข้าใช้บริการใน แต่ละร้านค้าได้ตามหลักเกณฑ์การให้บริการ 1 คนต่อ 5 ตารางเมตร ได้อีกด้วย
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้สังคมไทยก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน ภายใต้การดูแลและป้องกันอย่างดีที่สุดเพื่อความ ‘มั่นใจ’ สำหรับลูกค้าที่เข้าใช้บริการในทุกพื้นที่ ที่ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯให้บริการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คิงเพาเวอร์-เลสเตอร์ซิตี้ เปิดตัวโฆษณาเมืองไทยชุดใหม่ร่วมผ่านโควิด-19 ไปด้วยกัน
"คิงเพาเวอร์"คว้าธุรกิจค้าปลีกสนามบินยอดเยี่ยมเอเชีย
“คิงเพาเวอร์”ตอบรับนายกฯตู่ทุ่ม1.5พันล.ช่วยโควิด