“เพื่อไทย”ล็อกเป้าซักฟอก“บิ๊กตู่”แก้โควิด-เศรษฐกิจผิดพลาด

10 ม.ค. 2564 | 12:18 น.

 “เพื่อไทย”ล็อกเป้าซักฟอก “บิ๊กตู่” แก้“โควิด-เศรษฐกิจ”ผิดพลาด ทำประชาชนเดือดร้อน “บ่อนพนัน”มีส่งส่วย หัวหน้ารัฐบาลต้องรับผิดชอบ นัดถกฝ่ายค้าน 15 ม.ค. กำหนดพรรครับผิดชอบประเด็น

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะทำงานเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่าว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ(ซักฟอก) ครั้งนี้ จะมีประเด็นหลัก คือ การแก้สถานการณ์โควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยเรื่องนี้เกี่ยวโยงไปทั้งการบริหารสถานการณ์ที่ผิดพลาดปล่อยให้มีการระบาดรอบใหม่ การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด จนประชาชนได้รับความเดือดร้อน

 

นองกจากนี้ยังเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องความมั่นคง ที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายนำเชื้อเข้ามา และปล่อยให้มีบ่อนการพนันเป็นแหล่งแพร่เชื้อ 


“ทั้ง 3 เรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องรับผิดชอบ เพราะคุมทั้ง ศบค. คุมตำรวจ ทหาร และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเอง จะไปโทษคนอื่นไม่ได้ เพราะชัดเจนว่านายกฯ บริหารล้มเหลวจนชาวบ้านเดือดร้อน ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกปัญหาบ่อนไปแล้ว นายกฯ บอกถ้ามีหลักฐานให้มาแจ้งตำรวจ ผมเอาหลักฐานไปบอกในสภาฯแล้ว แต่นายกฯ ก็ไม่ดำเนินการอย่างนี้จะถือว่าละเว้นหรือไม่”

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า “เรื่องบ่อนนี้ เรื่องส่วย เรื่องทุจริตชัดๆ หัวหน้ารัฐบาลปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร พร้อมกันนี้การอภิปรายประเด็นนี้ก็จะพ่วงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปในแต่ละเรื่องด้วย ทั้ง รมว.สาธารณสุข รมว.มหาดไทย รมว.แรงงาน เกี่ยวข้องกับใครเราจะอภิปรายทั้งหมด”


ประธานคณะทำงานเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นอกจากเรื่องโควิดแล้ว ยังจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับการทุจริตของรัฐบาลด้วย อาทิ โครงการอีอีซี และการต่อสัญญารถไฟสายสีเขียว ส่วนใครจะเป็นผู้อภิปรายนั้น คงต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นก่อน เพื่อดูเนื้อหาที่แต่ละพรรคจะอภิปราย ว่ามีเรื่องไหนเกี่ยวโยงกันหรือไม่ แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมเรื่องนี้กันวันที่ 15 ม.ค.ที่จะถึงนี้ แล้วจะยื่นญัตติสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค. หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ว่าจะให้อภิปรายเมื่อไหร่ เพราะฝ่ายค้านพร้อมอยู่แล้ว


ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 เมื่อรัฐบาลเน้นใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขปัญหา เจ้าภาพการจัดการจึงเป็นฝ่ายความมั่นคง แต่หน่วยงานความมั่นคงกลับเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดเสียเอง ที่ปล่อยปละละเลยให้แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายเข้ามาแพร่เชื้อในประเทศ กับละเลยให้เกิดบ่อนการพนัน

 

“ความย่อหย่อนดังกล่าวถูกประชาชนครหาว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไปรับส่วย แทนที่จะเร่งกู้ภาพพจน์ ระดมใช้ทรัพยากรต่างๆ ของกองทัพเข้ามาคลี่คลายวิกฤติโควิด เช่น มอบพื้นที่และสถานที่หน่วยทหารไปช่วยเหลือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม พร้อมจัดบุคลากรทางการแพทย์และกำลังพลของกองทัพเข้าร่วมสนับสนุนอย่างทันท่วงทีก็ไม่กระทำกัน”
ทั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นกองทัพที่เหินห่างประชาชน การทำเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมต้องเริ่มด้วยการขับนายกฯสืบทอดอำนาจ โควิดมิอาจหยุดศรัทธาประชาธิปไตย การชุมนุมใหญ่รูปแบบใหม่ๆ ของคณะราษฎรจะเกิดขึ้นอีกในเร็ววันนี้ และต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้อง