ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ผู้ช่วยประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวิกฤติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทุกธุรกิจต้องปรับตัว โดยโควิดคือตัวเร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ในส่วนของมิติการเปลี่ยนแปลง ยังเกิดขึ้นในทุกองค์กร ซึ่งจะต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน และ Digital transformation คือการปรับองค์กรให้เข้าสู่ความเป็นดิจิทัลในทุกๆด้าน นอกจากนั้นยังกล่าวถึง 4 ระดับความสามารถของบุคลากรด้านดิจิทัลของแต่ละประเทศกับความต้องการพัฒนาขีดความสามารถ (Upskill & Reskill) โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการ รวมถึงสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งการเกิดวิกฤติโควิดถือเป็นโอกาสในการ ทรานส์ฟอร์ม ของประเทศเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงรูปแบบของ Future Skill ในอนาคตโดยไม่ต้องรอให้เด็กเรียนจบ ลองให้เค้าเป็นสตาร์ทอัพทดลองทำธุรกิจ มีการลองผิดลองถูก และที่สำคัญคือการทดลองใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้เข้าสู่ระบบอาชีพได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ 5 พันธกิจของสภาดิจิทัลฯ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องการพัฒนาศักยภาพด้านแข่งขัน และการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเป็นดิจิทัล ได้แก่ การกำหนดมาตรฐานและดัชนีชี้วัดสู่ความเป็นดิจิทัลของประเทศไทย การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน (PPP) การสร้างบุคลากรดิจิทัล โดยขับเคลื่อนการเรียนรู้ได้จากทุกๆที่ ผ่านระบบออนไลน์ และการเชื่อมโยงหลักสูตรที่ดี การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผลักดันทุกภาคส่วนในทุกระดับ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย และก่อให้เกิดรายได้อีกด้วย รวมทั้งการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับภูมิภาคพร้อมระบบนิเวศที่ครอบคลุม
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันประเทศไทยมีศักยภาพในทุกๆ ด้าน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบุคลากรที่มี Future skill ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางของ Future job และการ ทรานส์ฟอร์ม ธุรกิจเพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต โดยสภาดิจิทัลฯ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันกับทุกภาคส่วนต่อไป