นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ด้านโครงสร้างพื้นฐาน) ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1,2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ และงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินและระบบไฟฟ้าสนามบิน ของ ท่าอากาศยานกระบี่ โดยมีความก้าวหน้างานโครงการฯต่างๆ ดังนี้
1.โครงการงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินมีความก้าวหน้า 100 เปอร์เซ็นต์ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2563) โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ Code D,E และอากาศยานขนาดกลาง Code C ได้จำนวน 34 ลำในเวลาเดียวกัน
2.โครงการงานก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 3 (เทอร์มินัล 3 ) พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1,2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์มีความก้าวหน้าสะสม 46.01% (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2563 ) โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานกระบี่จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้ 1,500 คนต่อชั่วโมง เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง หรือ จาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 8 ล้านคนต่อปี และอาคารจอดรถยนต์หลังใหม่และปรับปรุงลานจอดรถยนต์เดิมจะสามารถรองรับรถยนต์ได้สูงสุด 2,700 คัน
พร้อมกันนี้ ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตามจุดต่าง ๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งบุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยาน ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดเชื้อโคโรนา 2019 ( COVID -19) อย่างเคร่งครัด
เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ล้างมือบ่อย ๆ ในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในส่วนของผู้โดยและผู้ใช้บริการทุกท่าน ท่าอากาศยานกระบี่ ได้ตั้งจุดลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าออกของผู้โดยสาร ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
ทั้งยังคงทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส และต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น จุดรับรอรับกระเป๋าสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสาร (Check – in counter) ที่นั่งรอก่อนการเดินทางได้จัดให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
สำหรับการรักษาความสะอาด ท่าอากาศยานทุกแห่งได้ดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน พร้อมตั้งจุดบริการเจล แอลกอฮอร์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ และทำความสะอาดโดยใช้ แอลกอฮอร์และน้ำยาฆ่าเชื้อ ในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ทุกชั่วโมงหรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน
รวมถึงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ทุกสัปดาห์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ โควิด -19 ของกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด
นายสมเกียรติ ฯ กล่าวเสริมว่า กรมท่าอากาศยาน ตระหนักและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกท่าน ขอให้มั่นใจในการปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด ณ ท่าอากาศยานทุกแห่งในสังกัดของกรมท่าอากาศยาน
ทั้งนี้การดำเนินการก่อสร้างโครงการ ดำเนินการโดยบริษัทวีเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต็นท์ จำกัด และบริษัทกรุงเทพ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต็นท์ จำกัด ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินฯ ,บริษัทเซ๊าท์อื๊สเอเชียเทคโนโลยี จำกัด ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารฯ,กิจการร่วมค้า ที.พี.พี.ซี. ผู้รับจ้างงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินฯ,บริษัทคริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย)จำกัด(มหาชน) บริษัทผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารฯ