แม้จะเกิดโควิด-19 แต่บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ก็ยังคงมองโอกาสในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เจ้าสัวเจริญ เขย่าพอร์ต AWC ครั้งใหญ่ ด้วยการซื้อขายบิ๊กล็อตกว่า 2.2 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางที่AWC ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนหน้านี้ว่า
AWC ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี (กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่) ว่ามีแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาว
ล่าสุดAWC บริษัทมหาชนในเครือเจ้าสัวเจริญ ก็มีการเขย่าพอร์ตAWC รับต้นปีนี้ ด้วยการเดินหน้าลงทุนกว่า 19,145.8 ล้านบาท ในการซื้อสินทรัพย์และพัฒนาต่อยอดการลงทุนใหม่ของAWC ใน 3 โครงการ โดยโฟกัสไปที่
ได้แก่ 1.การซื้อโรงแรมซิกมา รีสอร์ท จอมเทียน พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีอาคารสูง 14 ชั้น อยู่ติดถนนเลียบหาดจอมเทียน ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 287 ห้อง จากบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APEX วงเงิน 500 ล้านบาท พร้อมใช้งบปรับปรุงโครงการ 1,288 ล้านบาท รวมใช้งบลงทุนรวมกว่า1,838 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงสินทรัพย์หลังการเข้าซื้อตามแผนสร้างโครงการคุณภาพเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
โดยจากโควิด-19 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์คอร์ปอเรชั่น (AWC) เคยกล่าวไว้ว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการ โรงแรม กว่า 100 ราย สนใจที่จะ เสนอขายโรงแรมและที่ดินเปล่าให้แก่ AWC ซึ่งก็มีทั้งโรงแรมในกรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของคนไทย มีทั้งที่บริหารเอง และจ้างเชนมาบริหาร เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว 4 ดาว ไปจนถึง5 ดาว เนื่องจากประสบปัญหาการขาดสภาพ จึงเป็นโอกาสในการเข้ามาช้อนซื้อธุรกิจ
2.การเข้าลงทุนในโครงการเวิ้งนาครเขษม ติดถนนเยาวราช มูลค่ารวมกว่า 16,595.5 ล้านบาท โดยเข้าเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัททีซีซี เวิ้งนาครเขษม จำกัดจากกลุ่มบริษัท ทีซีซี ของเจ้าสัวเจริญเอง จํานวน300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมดของรวมมูลค่าประมาณ 8,2651 ล้านบาท
จากนั้นAWC จะใช้งบลงทุนอีกประมาณ 8,247.8 ล้านบาท ลงทุนสร้างโครงการมิกซ์ยูส ที่จะประกอบไปด้วยโรงแรมระดับ LUXURY โรงแรมบูทีค ห้องพักระยะยาวแบบมีเซอร์วิส ห้องชุดโซโห ห้องชุดปล่อยเช่าร่วม อาคารจอดรถ พื้นที่รีเทล และร้านค้าปลีกใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการปลายปี 2569 ต่อเนื่องถึงปลายปี 2570
ทั้งนี้พื้นที่เวิ้งนาครเขษม ทางทีซีซี ซื้อเวิ้งตึกแถวเก่า ขนาด 14-1-91 ไร่ นี้มาจากราชสกุลบริพัตรเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ในราคา 4.5 พันล้าน
3. การเข้าลงทุนในบริษัทวรรณทรัพย์พัฒนา จำกัด (บริษัทในเครือ) รวมมูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิการเช่าโครงการลาซาล พื้นที่ 8 ไร่ และมีการใช้เงินลงทุน 514.8 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ รวมลงทุนกว่า 712.3 ล้านบาทซึ่งที่ดินดังกล่าวอยู่แปลงตรงข้ามศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว ของAWC เพื่อพัฒนาเชื่อม 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าสัวเจริญ ทุ่ม1.83 พันล้านบาท ซื้อโรงแรมซิกมา รีสอร์ท พัทยา รุกลงทุนปรับโฉมใหม่
เจ้าสัวเจริญ เขย่าพอร์ต AWC ซื้อขายบิ๊กล็อตกว่า 2.2 หมื่นล้าน
ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน AWC ตั้งกองทุนหมื่นล.ช้อนซื้อโรงแรม ต่อยอดธุรกิจ
ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน AWC เปิดโรงแรมบันยันทรี กระบี่ ลงทุน 2พันล้านบาท
ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดันมิกซ์ยูส AWC ดึง แมริออท บริหาร 4 โรงแรมใหม่