ต่อไปนี้คือ “วาทะ” ของนายกรัฐมนตรี จาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ วันที่สอง ที่ต้องบันทึกเอาไว้ว่าหลากหลายประเด็น นายกฯได้ไขข้อข้องใจแล้ว แต่จะเป็นคำตอบที่ทำให้ “คลายใจ” หรือ “คาใจ” ต้องไปตัดสินกันในวันลงคะแนนโหวต เสาร์ที่ 20 ก.พ.นี้
ข้อกล่าวหาปล่อยให้มีการลักลอบเข้า-ออกของแรงงานต่างด้าว
“ประเด็นการทุจริตผิดกฎหมาย มีการเรียกรับผลประโยชน์ ผมยืนยัน 3 ป. (3 ป. คือ ประยุทธ์-ป้อม-ป๊อก หมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา)ไม่มีรับเงิน ใครกล่าวหา ไปพิสูจน์มา หาพยานมา แล้วไปสู้กับผมในคดีนี้ ในสภาพูดได้ไม่เป็นอะไร ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมก็ต้องรักษาเกียรติของผม และผมก็รู้ว่าท่านต้องการให้ผมโมโห ยากครับยาก บอกไว้ก่อน"
ข้อกล่าวหาระบบสาธารณสุขล้มเหลว
“วันนี้รัฐบาลพยายามหาวิธีการบริหารสร้างความเข้มแข็งด้านสาธารณสุข ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทั้งแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แต่ท่านกลับบอกว่าเราล้มเหลวทั้งหมด ทำไมไม่คิดว่าคนทำงานจะเสียใจ หลายอย่างที่รัฐบาลทำ ทำให้เกิดผลดี แต่อาจมีผลเสียด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง ซึ่งเราก็มีมาตรการเสริมเข้าไป เราบริหารคนจำนวนมากที่เดือดร้อน ปัญหาจึงมีได้บ้าง ผมเข้าใจดีและอยากจะทำให้เร็วที่สุด ไม่มีใครอยากไม่ให้ แต่มันไม่ใช่เงินของผม เป็นเงินของทุกคน อย่าไปพูดบิดเบือนให้เสียหายว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจ หลายมาตรการเราทำไปหมดแล้ว”
การบังคับใช้แอปฯไทยชนะ
“ส่วนเว็บไซต์ไทยชนะที่บอกว่าเป็นการบังคับนั้น ขอถามว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แล้วตามเขาไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลทำเพื่อสุขภาพของประชาชน ตรงนี้ต้องขอความร่วมมือด้วย เมื่อเจอปัญหาคือสิ่งที่ต้องแก้ไข ไม่มีอะไรได้มาทีเดียว เช่นเดียวกับเรื่องการจดทะเบียนแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีขบวนการแรงงานเถื่อน ผมก็ลงมือดำเนินการทั้งสิ้น บอกแล้วว่าผมรังเกียจคนทำผิดกฎหมาย รังเกียจเงินชั่วๆ ที่ได้มาจากการทำความผิด ผมเกลียดลูกน้องเลวๆ เกียรติยศและศักดิ์ศรีอยู่กับผมมาตั้งแต่เกิดจนตายในสายเลือดของผม อย่ามาบอกว่าผมไม่เคารพในศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเอง ไม่เช่นนั้น ผมไม่มาทนนั่งอยู่แบบนี้ นี่ไม่ได้โมโห”
การติดตามเบาะแส-สายตรงนายกฯ และข้อหาทุจริต
“เรื่องการเฝ้าระวังด้านความมั่นคง เราจะต้องสร้างเครือข่ายประชาชนให้มากที่สุด หลายประเด็นเริ่มมีการเปิดเผยมาเรื่อย ๆ ต้องขอบคุณจากการพูดหรือการส่งข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลในขั้นต้น และพิสูจน์ทราบต่อไป ณ วันนี้ ยังมีการเปิดช่องทางให้คนแจ้งสายตรงมาที่นายกรัฐมนตรี ทำให้ผมได้ข้อมูลมากขึ้นและทำให้มีการจับกุมหลายคดี จะเป็นขบวนการที่มีทหารตำรวจเกี่ยวข้องไหม มันมีอยู่แล้ว แต่ผมขอไม่พูดตรงนี้เพราะกำลังสอบสวนอยู่ อีกหน่อยข้อมูลก็จะออกมาหมด”
“ถ้าข้อมูลมาถึงผู้บังคับบัญชาระดับบน ที่ท่านบอกว่าระดับบนรอรับเงินอย่างเดียวนั้น เงินตรงไหน ผมไม่มีเรื่องของการทุจริต ไม่เคยคุ้นชินกับการทุจริต ท่านพูดมาให้คนเข้าใจผิด จะผิดจะถูกไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรมในสภาฯ อยากให้พูดให้เกียรติกันบ้าง การดูถูกเหยียดหยามควรหรือไม่ ในสภาฯจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ถ้าไปพูดข้างนอกมีปัญหา”
ข้อกล่าวหาลุแก่อำนาจ-แทรกแซงการทำงานของหน่วยงาน
“ผมรู้สึกแปลกใจผู้อภิปราย ว่าอาจจะไม่มีความเข้าใจสถานการณ์ บทบาทหน้าที่ การบริหารราชการในเชิงโครงสร้าง แต่สิ่งที่เห็นตรงกันคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน เป็นภัยคุกคามต่อบ้านเมืองหลายมิติ ถ้าช้าสถานการณ์จะแย่ลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับรู้อย่างเป็นเอกภาพหรือการทำให้เกิดความสับสน ยิ่งมีสื่อโซเชียลยิ่งจะทำให้การเข้าถึงข้อมูลมีมากขึ้น บางคนใช้ความคิดเห็นตัวเองสรุปข้อมูลเอง อาจไม่ได้รับการสังเคราะห์ที่เพียงพอ หลายเรื่องเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง มีความรับผิดชอบกฎหมายแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดมีอำนาจตามกฎหมาย เพียงแต่เปิดเวทีกลางให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน ให้พื้นที่รับผิดชอบในสถานการณ์ที่มีความแตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ไม่มีใครอยากให้ทุกคนลำบาก หรือทำให้เศรษฐกิจไม่ดี เจตนาของพวกเราไม่ใช่แบบนั้น”
การบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
“สิ่งที่รัฐบาลทำอาจไม่ถูกใจบางคน แต่ขอให้เข้าใจว่าทุกคนทำงานเต็มที่ และหลายอย่างมีความย้อนแย้ง ท่านหนึ่งบอกว่าทำไมต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เร็วเกินไป แต่อีกท่านบอกว่าช้าเกินไป มันย้อนแย้งกันเอง ตรงนี้ทำให้คนทำงานลำบาก แต่เราไม่สามารถบังคับให้ทุกคนเห็นชอบ เพราะนี่คือประชาธิปไตย ฉะนั้น ผมไปรวบอำนาจใครที่ไหนใครจะว่า ใครจะด่า ดูถูกเหยียดหยามผมก็นั่งฟังอยู่ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้นในสภาฯ แห่งนี้ แต่ก็ต้องอดทน เพราะนี่คือประชาธิปไตยที่ท่านต้องการ ฉะนั้น อย่ามาหาว่าผมเอาแต่อำนาจ ถ้าใช้อำนาจแบบนั้น ผมคงไม่ต้องมานั่งฟังแบบนี้”
“ช่วงแรกเราไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน โรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต เราก็แก้ปัญหาคนละอย่าง คราวนั้นเป็นการระบาดจากสัตว์สู่คน ผมจำได้ว่ามีการฆ่าไก่ 4 - 5 ล้านตัว แต่ครั้งนี้ (ผู้แพร่เชื้อ) เป็นคน เราฆ่าแบบนั้นไม่ได้ ยอมรับว่าช่วงแรกอาจสับสน ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการกลาง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด ขอยืนยันว่าผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น ทุกหน่วยงานใช้การบูรณาการร่วมกันด้วยกฎหมายของหน่วยงาน ผมทำงานรูปแบบคณะกรรมการเหมือนกับรูปแบบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั่นคืออำนาจหน้าที่ของผมตามความรับผิดชอบ”
ฝากไว้ให้ (ฝ่ายค้าน) คิด
“รัฐบาลมีแนวทางในการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ท่านก็มาตี อันนั้นไม่ดี อันนี้ไม่ดีทำอะไรก็ไม่ถูก เอาไว้ให้ท่านมาเป็นรัฐบาลเองก็แล้วกัน ก็อวยพรอยากให้ได้เป็น แต่จะได้เป็นหรือไม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ได้หวงอำนาจ ท่านเองก็เข้ามาด้วยกระบวนการเดียวกัน ฉะนั้น อย่าพูดมาก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“ยุทธพงศ์-นายกฯ”แลกหมัดปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว
“หลวงพ่อป้อม” ที่ “บิ๊กป้อม” ไม่ปลื้ม (ประมวลภาพ)
อภิปรายไม่ไว้วางใจ เดือด “บิ๊กตู่” ตอกกลับ 'วิโรจน์' ปมโจมตีวัคซีนโควิด