ว่ากันว่า “ตรีนุช เทียนทอง” เธอได้รางวัลตอบแทนสำหรับเด็กดี ด้วยคุณสมบัติทั้งการศึกษา เชื่อฟังผู้ใหญ่ รวมทั้งความตั้งใจทำงานในพื้นที่เป็นอย่างดี จนกลายเป็น ส.ส. ที่ไม่เคยแพ้เลือกตั้ง 5 สมัยรวด มีสายป่านที่เหนียวแน่นกับเครือข่ายการเมือง ทั้งสายผู้กว้างขวางในท้องถิ่น และร่มเงานายพลใหญ่ จึงไม่แปลกที่จะปรากฎชื่อของเธอในโผปรับคณะรัฐมนตรี ว่าที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการแทนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากถูกศาลสั่งจำคุก 7ปี 16เดือน ในฐานะเป็นอดีตแกนนำม็อบ กปปส.
“ตรีนุช เทียนทอง” ส.ส.สระแก้ว คือหลาน “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง สาเหตุที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ว่ากันว่าเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเทียนทอง ตัดสินใจให้โอกาสโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีรายงานด้วยว่าภริยานายกฯ ก็ไม่ได้รู้จักกับตรีนุชเป็นการส่วนตัว
“ตรีนุช เทียนทอง” คือใคร
เกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2515 เป็นบุตรีของนายพิเชษฐ์ เทียนทองกับนางขวัญเรือน เทียนทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสระแก้ว
มีพี่น้อง คือ ฐานิสร์ เทียนทอง อนุรักษ์ เทียนทอง และบดี เทียนทอง
รวมถึงมีศักดิ์เป็นหลานสาวของ นายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้กว้างขวางทางการเมือง
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการเงินการลงทุน และปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์ จาก Western Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข
ตรีนุชผู้ไม่เคยแพ้ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสระแก้ว ทั้งหมด 5 ครั้ง
• ครั้งแรก พ.ศ. 2544 สังกัดพรรคไทยรักไทย
• ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย
• ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2550 ในสังกัดพรรคประชาราช
• ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2554 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย
• ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2562 หลังย้ายมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561
ตรีนุช ได้ยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ในฐานะ ส.ส.สระแก้ว รวมถึง นพ.เจษฏา โชคดำรงสุข คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 494,981,474 บาท รวมหนี้ 2,536,193 บาท เป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 416,016,596 บาท เป็นของคู่สมรส 70,449,104 บาท และของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 8,474,773 บาท
ทรัพย์สินส่วนใหญ่แบ่งเป็นเงินฝาก 36,163,608 บาท เงินลงทุน 38,587,406 บาท ที่ดินส่วนใหญ่อยู่ใน จ.สระแก้ว สุพรรณบุรี นนทบุรี มูลค่ารวม 298,447,200 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่ารวม 31,160,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 11,699,382 บาท