เมียนมาตอบโต้ ส่งเครื่องบินถล่มฐานที่ถูกKNUบุกยึด ชาวบ้านกะเหรี่ยงหนีตายทะลักข้ามแม่น้ำสาละวินตลอดแนวพรมแดนด้านตะวันตก เข้าไทยอีกระลอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา โกลาหลอีกคำรบ จากการที่กองกำลังทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU - The Karen National Union สังกัดกองพล 5 ซึ่งมีฐานปฎิบัติการพื้นที่แถบเมืองผาปูน ใกล้บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดตากกับแม่ฮ่องสอน ได้เข้าโจมตีและยึดฐานทหารเมียนมา แห่งหนึ่งได้ ต่อมาทหารเมียนมา ได้ส่งเครื่องรบมายิงโจมตีทิ้งระเบิดเพื่อตอบโต้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเกิดเปลวเพลิงและกลุ่มควันหลายจุด
ทหารเมียนมาได้ใช้ความรุนแรงทางอากาศ ตอบโต้ทหาร KNU ซึ่งผลของปฎิบัติการเครื่องบินโจมตีทางอากาศที่รวดเร็ว นอกจากถล่มฐานทหารแล้ว บางส่วนโดนบ้านเรือนราษฎร ส่งผลทำให้ชนชาวกะเหรี่ยงที่เป็นชาวบ้าน เดือดร้อนหนัก ผู้หญิง เด็กๆ คนแก่ ต้องลงไปอยู๋ในหลุมหลบภัย
ประชาชนชาวกะเหรี่ยงเกิดความสูญเสีย เต็มไปด้วยคราบเลือดและน้ำตา พบกับความทุกข์ยาก ทำให้ เเถบลุ่มเเม่น้ำสาละวิน ซึ่งอยู่ตามแนวชายแดน ห่างจาก อ.แม่สอด จ.ตาก กับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 250 กิโลเมตร จะพบชาวบ้านอพยพหนีตายอย่างน่าสงสาร ต้องหอบลูกจูงหลาน คนเเก่ สตรี คนป่วย คนบาดเจ็บ ต้องออกจากบ้านเกิดที่พวกเขาอยู่อาศัย หนีตายจากภัยสงคราม เพื่อเอาชีวิตรอดอย่างทุลักทุเล ข้ามแม่น้ำสาละวินมายังฝั่งประเทศไทย ทำให้แม่น้ำสาละวิน ที่เงียบสงบมานาน กลายเป็นแม่น้ำแห่งสงครามอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางการไทย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ชนชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีภัยสงคราม ตามหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง