นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ชี้แจงกรณี คุณตาคุณยาย จังหวัดกำแพงเพชร ประกาศผ่านสื่อให้ช่วยตามหาลูกชายให้มาใช้หนี้ กยศ. หลังได้รับหนังสือจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดกำแพงเพชรประกาศยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด จนกระทั่งผู้ที่ซื้อทรัพย์ดังกล่าวได้มาเสนอขายที่คืนนั้น โดยกรณีดังกล่าว เกิดจากผู้กู้ยืมได้ทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างปีการศึกษา 2540 - 2545 รวมเป็นเงินต้นทั้งสิ้น 132,010 บาท ผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้จนถูกดำเนินคดีในปี 2553 และทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยตกลงผ่อนชำระเป็นรายเดือนๆละ 1,500 บาท ให้เสร็จสิ้นภายใน 9 ปี
ทั้งนี้ ภายหลังศาลมีคำพิพากษา ผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น รวมเป็นเงิน 3,000 บาท จนระยะเวลาล่วงเลยใกล้จะสิ้นสุดระยะเวลาบังคับคดี กองทุนจึงมีความจำเป็นต้องยึดทรัพย์บังคับคดีและพบว่าผู้กู้ยืมมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งที่ดินดังกล่าวยังติดจำนองอยู่กับสถาบันการเงินอื่น โดยภายหลังการยึดทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกำแพงเพชร ได้ประกาศขายทอดตลาด 4 นัด ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2563 โดยมีผู้ซื้อทรัพย์ได้ในราคา 402,000 บาท
“ก่อนที่จะมีการบังคับคดี กองทุนพยายามที่จะติดต่อกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันและได้ดำเนินการตามขั้นตอนการติดตามหนี้มาโดยตลอด จนในที่สุดกองทุนมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดทรัพย์ของผู้กู้ยืมก่อนที่คดีจะขาดอายุความ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน” ผู้จัดการ กยศ. กล่าว
อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ ได้แสดงความเห็นใจคุณตาและคุณยายและพร้อมที่จะหาแนวทางให้ความช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง รวมถึงจะดำเนินการติดตามผู้กู้ยืมให้กลับมาแสดงความรับผิดชอบต่อไป
ทั้งนี้ กองทุน ขอฝากถึงผู้กู้ยืมให้ชำระหนี้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องจนเดือดร้อนถึงผู้ค้ำประกันหรือผู้ปกครอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบิดามารดาและญาติพี่น้อง จึงขอให้ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ทุกท่านตระหนักถึงการชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป