วันนี้ (9 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวสงกรานต์เดินทางปลอดภัยจากโควิด 19 โดยนายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวว่า กรมอนามัย ได้จัดทำอนามัยโพลล์ สำรวจระดับความกังวลของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 7 เมษายน 2564 พบว่า มีความกังวลปานกลางและกังวลมากร้อยละ 76.6 เรื่องที่กังวลมากที่สุดคือการละเลยการป้องกันตัวเองร้อยละ 21.27 รองลงมาคือ กลัวการติดเชื้อจากการรวมกลุ่มในสถานที่ต่างๆ, สถานที่ต่างๆ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค, สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
สำหรับเรื่องพฤติกรรมการป้องกันโรคด้วยหลัก DMHTT ในประชาชน 6,987 คน พบว่า ประชาชนปฏิบัติได้มากที่สุด คือ สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อไปในที่สาธารณะร้อยละ 92 รองลงมาคือตรวจวัดอุณหภูมิร้อยละ 91.5 ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ร้อยละ 85.5 เว้นระยะห่างร้อยละ 78.9 และลงทะเบียนไทยชนะร้อยละ 72 โดยกลุ่มอายุ 45-59 ปีมีพฤติกรรมป้องกันโรคมากที่สุดและกลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปีทำได้น้อยที่สุด ส่วนกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในช่วงสงกรานต์มากที่สุด คือไปทำบุญตักบาตร รองลงมาคือรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ สรงน้ำพระ และพบว่ากลุ่มอายุ 25–59 ปี จะใช้ระบบออนไลน์แทนการนัดรวมกลุ่มกัน
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า รัฐบาล ต้องการสืบสานวัฒนธรรมไทย เป็นเทศกาลสงกรานต์ที่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด 19 จัดกิจกรรมแบบวิถีใหม่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ การคัดกรอง การลงทะเบียนไทยชนะ และที่สำคัญสถานประกอบการ สถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ต้องประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai-Stop COVID การดำเนินกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ เช่น การจัดพิธีรดน้ำดำหัว การสรงน้ำพระ ใช้การ ริน รด พรม จัดในที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากตลอดเวลา เตรียมอุปกรณ์รดน้ำมาเอง, งดจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่มีการรวมกลุ่มคน งดสาดน้ำ ประแป้ง
งดจัดงานเลี้ยงสังสรรค์รวมกลุ่มคนที่มาจากหลายพื้นที่, การจัดงานเลี้ยง ขณะอยู่ในงานให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ลดการพูดคุย/ ตะโกนเสียงดัง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่ถึงบ้าน หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงในช่วง 14 วันงดร่วมงาน สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ต้องลดความแออัด จัดโต๊ะให้เว้นระยะห่าง จำนวนคนต่อโต๊ะ แยกภาชนะอุปกรณ์รายบุคคล และทำความสะอาดพื้นผิวบ่อยๆ
“ขอความร่วมมือประชาชนเมื่อเดินทางถึงบ้านขอให้อยู่กับครอบครัวที่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ลดกิจกรรม ลดเวลาร่วมกิจกรรม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ส่วนผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวยึดหลัก New Normal ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ควรมีผู้ติดตามและนำยาประจำตัวไปด้วย” นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าว
ด้านนายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก ได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทาง อาทิ จัดยานพาหนะอย่างเพียงพอ ดูแลการจราจรให้คล่องตัว แนะนำการใช้เส้นทางที่เหมาะสม และมาตรการดูแลความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน พบผู้ติดเชื้อจากระบบขนส่งต่ำมาก โดยได้จัดช่องทางจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า
ผ่านระบบออนไลน์ ลดแออัดหนาแน่นที่สถานี จัดระบบคิวซื้อตั๋วแบบเว้นระยะห่าง มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ ผู้โดยสาร/ พนักงานขับรถและประจำรถ ไม่ยินยอมให้ผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากขึ้นรถ ทำความสะอาดผิวสัมผัสภายในสถานี ภายในรถ งดบริการอาหารและรับประทานอาหารบนรถ เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศที่จุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสาร สแกน ไทยชนะ หรือลงทะเบียนการเดินทางกับขนส่ง เพื่อความสะดวกในการสอบสวนโรคกรณีพบการติดเชื้อ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดคุยโทรศัพท์ ร้องเรียนด้านบริการ เช่น พนักงานขับรถเร็ว หวาดเสียว ไม่สวมหน้ากาก ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสาร 1584 หรือเว็บไซต์ กรมขนส่งทางบก