23 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเทศบาลตำบลแม่คือ จังหวัดเชียงใหม่ว่า หลังจากตรวจพบครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นหญิง อายุ 58 ปี ติดเชื้อโควิด-19 และได้มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจคัดกรองหาผู้สัมผัสเชิงรุกพบว่า มีครูติดอีก 2 คน และเจ้าหน้าที่นักการภารโรงอีก 1 คน อีกทั้งยังมีเด็กเล็กอายุระหว่าง 4 - 6 ปี ติดเชื้ออีก 16 คน รวมยอดเบื้องต้น 20 ราย ขณะที่จำนวนเด็กนักเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ มีทั้งหมด 54 คน
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายจิระชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด และนายแพทย์ปรีชา สิริจิตราภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการจะจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดย นายเจริญฤทธิ์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลแม่คือ ให้เป็นโรงพยาบาลสนามอีกแห่งหนึ่ง เปิดขึ้นเฉพาะกิจเป็นกรณีพิเศษเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเล็ก และครู เพื่อช่วยลดปัญหาการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็กเล็กที่ไม่ควรเอาไปรวมกับผู้ใหญ่ โดยให้โรงพยาบาลดอยสะเก็ดเข้ามาช่วยดูแลกระบวนการรักษาให้ได้ตามมาตรฐานของโรงพยาบาลสนาม จึงต้องมีการคำนึงถึง 2 เรื่องทั้งการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไปสู่ชุมชน
พร้อมกันนี้ ได้มีการแบ่งกั้นโซนปลอดภัยให้เด็กเล็ก สามารถออกมาทำกิจกรรมบริเวณด้านนอกได้ด้วย เช่น บริเวณสนามเด็กเล่น เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดความเครียด หรือกดดันมากเกินไป ซึ่งโชคดีที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ อยู่ห่างไกลจากชุมชน พร้อมกับจะประสานให้ครูที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามและไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เข้ามาช่วยดูแลเด็กๆ
ทั้งนี้ จะมีการตรวจรักษาด้วยระบบออนไลน์เป็นหลักผ่านการให้คำปรึกษาจากกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลนครพิงค์ และหากมีเหตุฉุกเฉินจะมีแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ที่มาประจำอยู่ที่ตึกข้างเคียงตลอด 24 ชั่วโมง จะสวมใส่ชุด PPE เข้ามาช่วยเหลือได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ในช่วงบ่ายของวันที่23เมษายน 2564 โดยจะมี นายอำเภอดอยสะเก็ด เป็นผู้บัญชาการ โรงพยาบาลสนามในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 อำเภอดอยสะเก็ด
ขณะที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 237 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมในระลอกเดือนเมษายนของจังหวัดเชียงใหม่ ยอดสะสมอยู่ที่ 2,819 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 2,597 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันนี้มาจาก 3 คลัสเตอร์ ได้แก่
1. คลัสเตอร์เรือนจำกลาง อำเภอแม่แตง จำนวน 37 ราย ซึ่งไม่ได้เป็นการระบาดในแดนผู้ต้องขัง แต่เป็นผู้ต้องขังแรกรับ ที่พบจากการตรวจในระหว่างกักตัวตามมาตรการ 14 วัน โดยขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่
2.คลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม ที่ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบว่าเกิดขึ้นจากการร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม และทานอาหารร่วมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 44 คน ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อในกลุ่มดังกล่าว พบว่ามีผู้ร่วมกิจกรรมติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 23 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อของจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 21 ราย และอีก 2 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดลำพูน โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 21 ราย ได้ถูกนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยแม่โจ้แล้ว
3.คลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าเกิดจากคุณครูที่ติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งจากการตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด 120 ราย พบว่ามีเด็กในศูนย์เด็กเล็กอายุ 4-6 ปี ติดเชื้อทั้งหมด 14 ราย และอีก 2 ราย เป็นผู้ใหญ่
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลนครพิงค์และโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ร่วมกับทางอำเภอดอยสะเก็ด จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจขึ้น เพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้
นายกษิติกานต์ ปาจุวัง รองปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางเทศบาลฯได้เตรียมพื้นที่ บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ ให้เป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจภายในบ่ายของวันที่ 23 เมษายน 2564 เพื่อรองรับเด็กเล็กอายุ 4-6 ปีที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 14 ราย จากคุณครูมารับการรักษา พร้อมได้จัดอาคารใกล้กัน ให้เป็นสถานที่ปฎิบัติงานของทีมบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลนครพิงค์ด้วย
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้ พบการระบาดใน 3 คลัสเตอร์ใหม่ คือ เรือนจำ ศูนย์เด็กเล็ก และสถานปฏิบัติธรรม โดยลักษณะของการติดเชื้อในระลอกนี้พบว่า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มในการทำกิจกรรม การสังสรรค์ และการพบปะกันในโอกาสต่าง ๆ โดยละเลยมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะการไม่สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นสำคัญ และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ซ้ำรอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัพเดทไทม์ไลน์-สถานที่เสี่ยงติดโควิด "ชลบุรี" แห่งใหม่เพิ่มอีก 11 จุด เช็กได้ที่นี่
พลาสมาหมดสต็อก หมอยงชวนบริจาคช่วยชาติรอบ 2 หลังติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง
บอร์ดสปสช.จัดงบประมาณ 3,753 ล้านบาท สู้โควิด-19 ระบาด
"ชลบุรี"ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่ม125 ราย บุคลากรทางการแพทย์ติด 8 ราย
ยังหนัก! นนทบุรี ป่วยโควิดใหม่วันเดียวพุ่ง 105 ราย โยงสถานบันเทิง