“อดีตประธานศาลฎีกา-อดีตผู้พิพากษา”ปัดรับสินบนคดีบริษัทโตโยต้า

31 พ.ค. 2564 | 11:54 น.

อดีตประธานศาลฎีกา-อดีตผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์ เข้าพบตร. 3 ชั่วโมง ปฎิเสธร่วมรับสินบนคดีบริษัทโตโยต้า ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์ พ้นตำแหน่งก่อนคดีมีคำพิพากษา ยันเอาผิดกราวรูด

วันนี้(31 พ.ค. 64) ที่กองปราบปราม นายดิเรก อิงคนินันท์ อดีตประธานศาลฎีกา และ นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ได้เข้าพบพนักงานสอบกองบังคับการปราบปราม หลังถูกพาดพิงจากข่าวที่เผยแพร่ทางเว็ปไซต์ต่างประเทศ กรณีเกี่ยวข้องคดีภาษีของบริษัท โตโยต้า ประเทศไทย 

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะให้ พ.ต.ต.หญิง พรพิมล ดอกไม้ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม สอบปากคำ นายดิเรก  และนาย ชัยสิทธิ์  ที่ถูกพาดพิงจากข่าวที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ LAW360.com โดยมีเนื้อหาว่า 

มีผู้พิพากษา 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีภาษีของบริษัทโตโยต้าประเทศไทย โดยมีการจ่ายสินบนให้กับสำนักงานกฎหมายและผู้พิพากษาทั้ง 3 คน ดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยอดีตผู้พิพากษาทั้ง 2 ท่านได้นำภาพ และเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ลิงค์เว็บไซต์ และ IP address ที่ปรากฏ มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นพยานหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนเพื่อเอาผิดกับเว็บไซต์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ และผู้โพสต์ข่าวดังกล่าว ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

“หลังจากนี้จะตรวจสอบว่า คดีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นคดีที่กองบังคับการปราบปรามสามารถรับทำคดีได้หรือไม่ เพราะอาจเข้าข่ายเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งกองบังคับการปราบปรามสามารถสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาพยานหลักฐานและคำให้การของผู้แจ้งอีกสักระยะหนึ่ง” พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุ

ส่วน นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ อดีตประธานศาลฎีกา ซึ่งประสงค์จะเข้าแจ้งความเพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้ทราบว่าได้มีการมอบอำนาจให้สำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้ตรวจสอบและดำเนินคดีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยดำเนินคดีกับเว็บไซต์ดังกล่าวมาพร้อมกันเหมือนกับผู้พิพากษาทั้ง 2 ท่านก่อนหน้านี้หรือไม่ ทั้งนี้หากประสงค์จะแจ้งความพร้อมกัน ก็จะตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานและติดตามตัวผู้ก่อความเสียหายในคราวเดียวกัน

ภายหลัง นายดิเรก และ นายชัยสิทธิ์ ได้เข้าให้กับพนักงานสอบสวนนานเกือบ 3 ชั่วโมง นายดิเรก ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ว่า คดีดังกล่าวจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เป็นคนพิจารณาเรื่องการดำเนินคดี และข้อหาต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นมองว่า เป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 

ทั้งนี้ยังปฏิเสธข่าวกรณีที่เว็บไซต์ LAW360.com กล่าวพาดพิงนายดิเรก เข้าไปมีส่วนร่วมในการรับสินบนในคดีของบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย โดยยืนยันว่า คดีดังกล่าวตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ เพราะพ้นจากตำแหน่งไปก่อนที่คดีดังกล่าวจะมีคำพิพากษาทั้งสองศาล ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงปลายของการดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา และไม่ได้พิจารณาหรือเกี่ยวข้องกับคดี หรือวิ่งเต้นต่างๆ โดยข่าวดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก เพราะไม่ได้ทำผิด และรับสินบน

 

ทั้งนี้ภายในหนังสือแจ้งความร้องทุกข์ของอดีตผู้พิพากษาทั้งสองคน ระบุว่า ให้ดำเนินการสืบสวนตามกฎหมายกับสำนักข่าว Law360, นายแฟรงค์ ผู้เขียนบทความ, บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัด , กรรมการผู้จัดการบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัด, บริษัทโตโยต้ามอเตอร์สหรัฐอเมริกา และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง 

หากผลการสืบสวนพบว่าบุคคลใดไม่ได้กระทำความผิด ก็ขอให้กันไว้เป็นพยาน และยังยืนยันความบริสุทธิ์ และยินดีให้ตรวจสอบการเงินและทรัพย์สินว่ามิได้รับสินบนแต่อย่างใด