ตามแผนคิกออฟปูพรมฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 7 มิ.ย. 2564 โดยเฉพาะพื้นที่ระบาดตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข โดยเน้นการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา (Astra Zeneca) เป็นหลัก ส่วนวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ใช้กับประชาชนที่ฉีดเข็มที่ 2 ตามกำหนด และอาจจะเลือกใช้ ในบางเคส
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ตั้งเป้าหมายการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 สำหรับการฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรกตั้งแต่ 7-19 มิ.ย. 64 ทั้ง sinovac และ AstraZeneca ทั่วประเทศ จำนวน 4 ครั้ง ดังนี้
รวม 3.5 ล้านโดส ผ่านจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศมากกว่า 993 จุด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านคนหรือ 70% ของประชากรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้ภายใน 2 เดือน
โดยมีการกระจายวัคซีนที่จะใช้ฉีดตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไปสำหรับ2 สัปดาห์แรกแล้วรวมกว่า 3,540,000 โดส และในสัปดาห์ที่ 3 จะมีวัคซีนอีกอย่างน้อย 840,000 โดส และสัปดาห์ที่ 4 อีกจำนวน 2,580,000 โดส ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีการตกลงกับทางบริษัทผู้ผลิตเบื้องต้น ซึ่งในภาพรวมเดือน มิ.ย.จะมีวัคซีนมากกว่า 6 ล้านโดส ปลายเดือนนี้จึงคาดว่าจะฉีดให้ได้ 10 ล้านโดสรวมจากฉีดไปก่อนแล้วเกือบ 4 ล้านโดส
อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้ประกาศ "เลื่อน-ยกเลิก" นัดหมายผู้ที่จองคิวลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดแล้วหลายแห่ง เพราะได้รับการจัดสรรวัคซีนน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระบบการกระจายวัคซีนของภาครัฐ โดยหลายโรงพยาบาลมีการปรับจำนวนการฉีดวัคซีนในแต่ละวันตามจำนวนวัคซีนที่ได้มา ซึ่งจะทราบวันต่อวัน ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายแห่งที่ยังคงยืนยันฉีดวัคซีนโควิดเหมือนเดิม
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ของ ผู้สื่อข่าวฐานเศรษฐกิจ บริเวรจุดบริการวัคซีนโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง พบว่าบรรยากาศการฉีดวัคซีนตามแผนปูพรมพร้อมกันทั่วประเทศ มีผู้ลงทะเบียนวัคซีนตบเท้าเข้ามารับบริการหนาแน่น โดย รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เปิดบริการฉีดวัคซีนคิวแรกตั้งแต่ 09:00 น. โดยวัคซีนที่ให้บริการในวันนี้เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้งหมด จำนวน 350 โดส ตามจำนวนการลงทะเบียนผ่านระบบ “หมอพร้อม ”
ทั้งนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า รพ.ธนบุรีบำรุงเมืองแห่งนี้มีวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรเพียงพอที่จะให้บริการไปจนถึงวันที่13 มิ.ย. นี้ ในขณะที่หน่วยบริการวัคซีนหลายพื้นที่อาจจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพียงพอต่อการให้บริการเพียง1-2วันเท่านั้น
“ประชาชนคนไทยมีการตื่นตัวที่จะได้รับการฉีดวัคซีนและมาฉีดวัคซีนกันอย่างพร้อมเพรียง เรื่องวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ มีทางเดียวที่จะหยุดระบาดได้ก็คือต้องฉีดวัคซีนให้กว้างและเร็วที่สุด ถึงแม้ของเราจะเริ่มช้ากว่าประเทศอื่นไปประมาณ 8 เดือน แต่พอเห็นวันนี้ก็มีความสบายใจอย่างยิ่งว่า เราทุกคนอยากจะฉีด
ตอนนี้ปัญหาใหญ่ก็คือเอาวัคซีนที่ไหนมาฉีด เพราะถ้าเราฉีดตามไทม์ไลน์ 100 ล้านโดส ภายในเดือนธันวาคม ซึ่งนั่นหมายความว่าการจะฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้า จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดส ดังนั้นหน้าที่ของรัฐบาลคือ จะต้องหาวัคซีนมาให้ได้ เดือนละ 15 ล้านโดส ”
จากปฏิบัติการฉีดวัคซีนโควิดพร้อมกันทั่วประเทศวันนี้ พบว่า ในช่วงครึ่งวันแรกมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 143,116 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 73,273 คน, กลุ่ม 7 โรคประจำตัว 21,924 คน, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 12,081 คน และที่เหลือเป็นกลุ่มอื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง