ประเด็นปัญหา ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ซึ่งส่งผลให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร เพดานสูงสุด 158 บาทตลอดสาย และปรับลดราคาลงเหลือ 104 บาท ต่อเที่ยว ในสถานการณ์โควิด19 ภายใต้การคัดค้านจากภาคประชาชน คนกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่า อัตราข้างต้นสูงเกินจริง สวนทางภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ที่เป็นอยู่ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างวงกว้าง ก่อนเกิดกรณีบีทีเอสเผยแพร่คลิปและจดหมายเปิดผนึกถึงผู้โดยสาร ขอต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี แลกกับการรับภาระหนี้สินกว่าแสนล้านบาท ที่รัฐบาลค้างชำระแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน ภายหลัง กรุงเทพมหานคร ยืนยัน ใช้ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีเขียว 65 บาทตลอดสาย
ล่าสุดวานนี้ (14 มิ.ย.64) ศูนย์สิทธิผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ 6 เขต มีความเคลื่อนไหวต่อแนวทางการการคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกครั้ง โดยได้เข้าพบและยื่นหนังสือพร้อมหารือการคัดค้านประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์สิทธิผู้บริโภค ชี้แจงว่า การชักชวนพรรคการเมืองในกรุงเทพมหานคร ร่วมคัดค้านการสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว และการขึ้นราคาค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมของกรุงเทพมหานครที่จะถูกนำเรื่องเข้าครม.เพื่อพิจารณาในเร็ววันนี้ เนื่องจาก ผู้บริโภคไม่ได้รับความชัดเจนจากกรุงเทพมหานครที่จะแก้ไขเรื่องนี้ หรือมีทางออกอื่นอย่างไรนอกจากขยายสัมปทานให้เอกชนเพื่อปลดหนี้แสนล้านของกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว
จากแคมเปญผู้บริโภคกรุงเทพชวน สส. กทม และพรรคการเมืองร่วมค้านต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ศูนย์สิทธิผู้บริโภคทุกเขตร่วมเสนอความเห็นว่า หากจะต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้า ต้องใช้ราคา 25 บาท เท่านั้น และหากไม่ต่อสัญญาสัมปทาน ขอให้ใช้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 44 บาท ตลอดสายตามสิทธิของบริษัทในสัญญาสัมปทานนับแต่ปัจจุบันถึงปี พ.ศ. 2572 โดยมีการจัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้น 15 บาท ทั้งสัมปทานเดิมส่วนต่อขยายเดิมและส่วนต่อขยายใหม่ เพื่อยึดหลักการเข้าถึงและคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนและภาระเกินสมควรของผู้บริโภค
พร้อมกันนี้เมื่อวันเสาร์ ที่ 12 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาศูนย์สิทธิผู้บริโภคเขตประเวศ และเขตสะพานสูง ได้เข้ายื่นหนังสือกับนายประสิทธิ์ มะหะหมัด สส. พรรคพลังประชารัฐ ศูนย์สิทธิผู้บริโภคเขตคลองสามวา เข้ายื่นหนังสือกับนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.พรรคประชารัฐ โดยมีเลขาเป็นผู้รับหนังสือแทน
ทั้งนี้ ศูนย์สิทธิผู้บริโภคเขตกรุงเทพมหานครจะมีการส่งต่อการยื่นจดหมายไปยังศูนย์สิทธิอื่นๆ และศูนย์สิทธิต่างจังหวัด เพื่อเชิญชวนพรรคการเมืองร่วมคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและการขึ้นราคาค่าโดยสารไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง