กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะออกคำสั่งปิดแคมป์คนงานในกรุงเทพมหานคร(กทม.) และปริมณฑล เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ล่าสุดพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เรียกประชุมและสั่งการให้กำลังตำรวจ ทหาร หน่วยเกี่ยวข้องออกปฏิบัติร่วมควบคุมดูแลการปิดแคมป์คนงานกว่า 400 แห่งในกทม. และปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้ (26 มิ.ย.) เพื่อไม่ให้แรงงานเคลื่อนย้ายโดยพลการ หรือ หลบหนี
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่ายเงินค่าจ้างชดเชย ให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ ในช่วงที่มีการประกาศปิด 1 เดือน โดยมีเงื่อนไขคนงานต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดไว้ เนื่องจากที่ผ่านมาแคมป์คนงานก่อสร้างเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อที่พิสูจน์ทราบได้
เงื่อนไขจ่ายเงินชดเชยปิดแคมป์คนงาน โดยสรุปมีดังนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างที่มีการปิดแคมป์คนงาน กระทรวงแรงงานจะลงไปตรวจโควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ที่ปิด และหากแคมป์ใดถือว่าปลอดภัยแล้วและได้รับวัคซีนในส่วน ม.33 แล้ว รวมถึงคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย จะดำเนินการปลดล็อคให้แคมป์นั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุด และอาจไม่ต้องรอให้ครบ 1 เดือน
ขณะที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชน จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้ในช่วงที่แรงงานต้องหยุดการทำงานทั้งหมดนอกจากนี้ในช่วงที่ปิดแคมป์คนงาน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาด และไม่ให้คนงานเดินทางกลับต่างจังหวัด โดยหน่วยงานของรัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน กระทรวงแรงงานและผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าว จะทำการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเข้าไปดูแล เฝ้าระวังพร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมในแต่ละแคมป์เพื่อดูความเรียบร้อยในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ด้วย