เปิดลิสต์ 34 โรงแรมหรู รับคนมีตังค์-ต่างชาติ กักตัว14วัน
เปิดลิสต์ 34 โรงแรม Alternative State Quarantine (ASQ) เปิดรับคนไทยมีตังค์-นักธุรกิจต่างชาติ กักตัว14วัน ในไทย ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ปัจจุบัน รัฐบาลอนุญาต ให้ คนไทย และ ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักธุรกิจ ทยอยการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เป็นนักธุรกิจชาติแรกที่สามารถเดินทางเข้าไทยได้แล้ว โดยเที่ยวบินแรกสำหรับนักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีวีซ่าทำงานระยาวที่ไทย เข้าเมืองไทยแล้ว เมื่อวันที่ 1ส.ค.ที่ผ่านมา และจะบินอาทิตย์ละ1 เที่ยวบิน รวมถึงทหารจากสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางเข้าไทย โดยทุกคนจะถูกกักตัว 14 วัน ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
สำหรับคนไทย ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง หรือ เป็นคนมีเงิน คงไม่อยากไปกักตัวใน State Quarantine ที่รัฐจัดไว้ แต่ต้องการกักตัว14วัน ในที่พักที่เป็นโรงแรมหรู ระดับ 4-5 ดาว โดยจ่ายเงินเอง หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) เช่นเดียวกับคนต่างชาติที่เข้าไทยต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด
ปัจจุบัน โรงแรมที่ผ่านการตรวจประเมิน Alternative State Quarantine โดยกระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงกลาโหม มีอยู่จำนวน 34 โรงแรม ได้แก่
1. โรงแรมเมอเวนพิค เวลเนส บีดีเอ็มเอส รีสอร์ท กรุงเทพ จำนวน 250 ห้อง
2. โรงแรม คิวว์ สุขุมวิท จำนวน 79 ห้อง
3. โรงแรม ดิไอเดิ้ล เรสซิเดนซ์ จำนวน 125 ห้อง
4. โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ จำนวน 250 ห้อง
5. โรงแรมรอยัล เบ็ญจา จำนวน 194 ห้อง
6. โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพจำนวน 118 ห้อง
7. โรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พ้อยพ์ สุขุมวิท55 จำนวน 198 ห้อง
8. โรงแรมอัมรา กรุงเทพ จำนวน 56 ห้อง
9. โรงแรม เดอะ คินน์ กรุงเทพ จำนวน 61 ห้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 4 ส.ค.63 ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย มาจาก “รัสเซีย”
ศบค.เผยทหารสหรัฐที่เข้าฝึกในไทย ผ่านการตรวจและเข้ากักตัวใน ASQ
10.โรงแรม สยาม แมนดาริน่า จำนวน 120 ห้อง
11. โรงแรม ทู ทรี จำนวน 50 ห้อง
12. โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพ รีสอร์ทจำนวน 189 ห้อง
13. โรงแรมแทงโก้ จำนวน 30 ห้อง
14. โรงแรม อมารี บุรีรัมย์ จำนวน 30 ห้อง
15. โรงแรม อนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ตจำนวน 36 วิลล่า
16. โรงแรมตรีศาลา ภูเก็ต จำนวน 15 วิลล่า
17. โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เทอร์มินัล21 จำนวน 160 ห้อง
18. โรงแรมโอทู ลักซูรี จำนวน 152 ห้อง
19. โรงแรม ทรี สุขุมวิท30 ห้อง
20.โรงแรมปริ๊นส์ตั้น กรุงเทพจำนวน 70 ห้อง
21. โรงแรม เบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนด้า แกรนด์ จำนวน 76 ห้อง
22. โรงแรมโซลาเรีย นิชิเท็นสึ แบ็งคอก จำนวน 200 ห้อง
23. โรงแรมอนันตรา ภูเก็ต สวีทสแอนด์ วิลล่า จำนวน100 ห้อง
24. โรงแรม เดอะ สลิล สุขุมวิท57 จำนวน 70 ห้อง
25. โรงแรม เดอะ สลิล ทองหล่อจำนวน 90 ห้อง
26. โรงแรมมายเทรียณ์ สุขุมวิท 18 จำนวน 70 ห้อง
27. โรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ สุขุมวิท จำนวน 60 ห้อง
28. โรงแรมเมเบิ้ล จำนวน 200 ห้อง
29. โรงแรม รอยัล รัตนโกสินทร์จำนวน 137 ห้อง
30. โรงแรมคอนราด กรุงเทพ จำนวน 100 ห้อง
31.โรงแรมรอยัล สวีท จำนวน 69 ห้อง
32. โรงแรมอมันตา โฮเทล แอนด์ เรสสิเด้นท์ จำนวน 60 ห้อง
33. โรงแรมโอโซน โฮเต็ล แอท สามย่าน จำนวน 40 ห้อง
34. โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ จำนวน 23 ห้อง
โดยสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมเป็น Alternative State Quarantine จะต้องเป็นโรงแรมต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงกรณีดัดแปลง และเป็น สถานที่ที่รัฐกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และไม่มีอาการที่เข้าเกณฑ์สอบสวน โรคโควิด-19 (Patient under investigation)
การนำโรงแรมเข้าร่วมโครงการ Alternative State Quarantine ก็จะเป็นอีกหนึ่งในวิธีในการหารายได้ของธุรกิจโรงแรม แต่ไม่ใช่ทุกโรงแรมจะได้รับการพิจารณาให้เป็นAlternative State Quarantineได้
เพราะจะต้องผ่านการประเมินความพร้อม ร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมตามเกณฑ์ที่กำหนด และโรงแรมจำเป็นต้องจัดรูปแบบบริการตามกำหนดที่ชัดเจน นำเสนอต่อคณะกรรมการร่วมกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหม
ที่มา : http://hsscovid.com
http://hsscovid.com/registerHotelasq