รมว.อุตสาหกรรมเผยรอหารือกับคิงส์เกตกรณีเหมืองอัครา คาดได้ข้อสรุปเดือนกันยายนก่อนขึ้นศาล พร้อมกำชับ กพร. ประเมินแหล่งแร่ในประเทศเทียบความต้องการใช้ในอนาคต
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรณี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ครอบคลุม 3 จังหวัด พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอเจรจากับรัฐบาลไทยเพื่อขอยุติข้อพิพาท ขณะนี้ยังรอการประสานจากคิงส์เกต คาดว่าเดือนกันยายนนี้จะมีความชัดเจนก่อนจะมีการขึ้นศาลวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ดี ได้มีการมอบนโยบายให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ประเมินแหล่งแร่ในประเทศ เทียบกับความต้องการใช้ในอนาคต และแนวโน้มการลงทุนของผู้ประกอบการ หากแหล่งแร่ในประเทศไม่เพียงพอก็ควรหาวัตถุดิบทดแทน เช่น การรีไซเคิลจากของเสียที่มีแร่เป็นส่วนผสม อีกทั้งยังได้เน้นย้ำให้การประกอบกิจการเหมืองแร่เป็นไปตามกฎหมาย มีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา โดยล่าสุดได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)หลายจังหวัดได้เข้ามาร้องเรียนถึงความกังวลของชุมชนต่อการประกอบกิจการเหมืองแร่ เรื่องนี้จะเข้าไปตรวจสอบแต่พบว่าความกังวลของชุมชนส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ กพร. เร่งการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการโดยให้พิจารณาอนุญาตประทานบัตรและใบอนุญาตต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดสำหรับผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นเรื่องการใช้ประโยชน์พื้นที่ เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ขอให้ กพร.เร่งดำเนินการ