ส่งออกข้าวหนุนแบน 3 สาร หวั่นอนาคตคู่ค้าใช้กีดกัน
ผู้ส่งออกข้าว หนุนยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ในนาข้าว หวั่นอนาคตคู่ค้าทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น อาจสั่งแบนนำเข้า ขณะผลสำรวจผลผลิตข้าวนาปีภาคอีสานคาดปีนี้ผลผลิต 20 จังหวัดวูบเหลือ 12 ล้านตัน จากผลกระทบน้ำท่วม
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ศึกษาภาวะผลผลิตข้าวนาปี ปีการเพาะปลูก 2562/63 ถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี(พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเสต) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ว่า ในส่วนของข้าวมองว่าหากยกเลิกได้เป็นเรื่องที่ดี เพราะเวลานี้ประเทศผู้นำเข้าข้าว โดยเฉพาะตลาดสำคัญทั้งตลาดสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น เริ่มนำมาตรการด้านสารตกค้างในสินค้าเกษตรมาใช้ และเริ่มเข้มงวดมากขึ้น อนาคตหากไทยยังใช้สารเคมีดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยได้ดังนั้นหากเกษตรกรหรือผู้ปลูกลด ละหรือเลิกการใช้ 3 สารอันตรายได้ จะทำให้การแข่งขันการส่งออกข้าวไทยยังมีศักยภาพอยู่
"ผู้ส่งออกสนับสนุนให้เกษตรกรลดการใช้สารอันตรายในการเพาะปลูกเนื่องจากประเทศผู้นำเข้าให้ความสำคัญและเพิ่มมาตรฐานความเข้มงวดมากขึ้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคู่ค้ามีการตื่นตัวมาก หากเกษตรกรไทยยังใช้อยู่ นอกจากจะกระทบต่อสุขภาพแล้วยังจะกระทบต่อการส่งออกข้าวได้”
ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในต่างประเทศปรับตัวลดลงในหลายตลาดอย่าง เช่นตลาดฮ่องกง พบว่าแบ่งตลาดข้าวไทยเหลือเพียง 48 % จากเดิมเคยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 68 % หรือแม้กระทั่งตลาดจีน สัดส่วนการนำเข้าก็ลดลง ซึ่งอนาคตมองว่าสัดส่วนการนำเข้าข้าวไทยในแต่ตลาดจะลดลงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจัยด้านของการแข่งขัน ค่าเงินบาทไทยที่แข็งค่า รวมถึงเรื่องคุณภาพข้าวส่งออกของไทย
อย่างไรก็ดีสำหรับทิศทางการส่งออกข้าวในปี 2563 ยังไม่สามารถประเมินภาพรวมการส่งออกได้ยังต้องรอดูในหลายปัจจัยทั้งปริมาณและการแข่งขัน
“จากการสำรวจภาพรวมผลผลิตข้าวโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าของ 20 จังหวัดในพื้นที่ ปีนี้จะมีประมาณ 8.20 ล้านตัน ลดลงจากปีที่แล้วที่มีผลผลิต 8.29 ล้านตัน หรือลดลง 1% ส่วนข้าวเปลือกเหนียวคาดจะมีผลผลิต 4.62 ล้านตัน จากปีที่แล้วมีผลผลิต 4.95 ล้านตัน หรือลดลง 6.4% ภาพรวมทั้งข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียวจะมีผลผลิตรวม 12.83 ล้านตัน จากปีที่แล้วมี 13.24 ล้านตัน หรือลดลง 3%”
ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผลผลิตข้าวภาคอีสานลดลงจากประสบปัญหาภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะผลกระทบจากน้ำท่วมรอบล่าสุด ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตลดลง อย่างไรก็ดี ยังต้องรอติดตาม และประเมินผลผลิตที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้อีกครั้ง