สหภาพรถไฟ ยื่นแถลงการณ์ผู้ว่าการต้องคนใน

สมาพันธ์คนงานรถไฟ(สพ.รฟ.)ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 3 องค์กรคือ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(สร.รฟม.)และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัด(สร.รฟฟ.)นำโดยนายศุวิช สุมานนท์ ประธาน สพ.รฟ.พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 50 คน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาบุคคลที่มาเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยคนใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่นั้นของให้เป็น “บุคคลภายในการรถไฟฯ”ตามข้อเสนอของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.)

โดยมีเหตุผลว่า “รัฐบาลปัจจุบันมีความมุ่งมั่นต่อการส่งเสริม สนับสนุนการขนส่งระบบรางทั้งในเมืองและการเชื่อมโยงระหว่างเมืองกับภูมิภาคต่างๆของประเทศด้วยการสร้างระบบทางคู่ทั่วประเทศ รวมทั้งรถไฟความเร็วสูงที่กำลังจะสำเร็จในไม่ช้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามกิจการรถไฟและการขนส่งระบบรางเป็นระบบที่มีเทคนิคเฉพาะ และมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องหลายด้าน ทั้งเรื่อง ทาง ราง สถานี รถจักรขับเคลื่อน ระบบล้อเลื่อน ระบบอาณัติสัญญาณ การสื่อสาร การซ่อมบำรุง การจัดระบบจัดการเดินรถเพื่อขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและเชื่อมร้อยกับระบบขนส่งอื่น สิ่งที่กล่าวมานั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคลากรที่ทำงานในการขนส่งระบบรางจะต้องมีความจัดเจน เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในกิจการขนส่งของระบบราง”และ สร.รฟท.ได้เคยยื่นหนังสือแสดงถึงเจตจำนงและเหตุผลต่อ ประธานการคัดสรร ประธานคณะกรรมการรถไฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรัฐมนตรีเป็นลำดับ

แต่ข่าวที่ปรากฏออกมาจากทางสื่อทั่วไป และสื่ออิเลคทรอนิคส์ออนไลน์ รายงานผลการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯออกมาว่า ผู้สมัครจากบุคลภายนอกได้รับคะแนนสูงสุดในการสรรหาผู้ว่าการคนใหม่ และจะมีการเสนอผลการสรรหาให้คณะกรรมการรถไฟฯ(บอร์ด)พิจารณาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายนอกและภายในการรถไฟฯและคำมีถามตามมาว่า ผู้สมัครที่มาจากคนนอกนั้นมีความรู้ ความสามารถที่พิเศษอย่างไร หรือแสดงวิสัยทัศน์ได้โดดเด่น รอบด้านเพียงใด จึงได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้ได้คะแนนสูงสุด มากกว่าคนในที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และทำงานในการรถไฟฯมานาน  รวมถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอน ในกระบวนการสรรหานั้นเป็นอย่างไรมีการลอคสเปคผู้สมัครจากคนนอก หรือมีใบสั่งจากการเมืองหรือไม่และยิ่งเป็นเรื่องเทคนิคเฉพาะแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่บุคคลภายนอกที่ไม่ผ่านประการณ์จะแสดงวิสัยทัศน์ได้ชัดจัดเจนกว่าบุคคลภายใน ดังที่ได้กำหนดไว้ในคุณสมบัติผู้สมัคร ( ข้อ ๓.๒.๔ และ ๓.๒.๕)

สพ.รฟ.จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงมาดูแลเรื่องนี้โดยตรงเพราะเรื่องการขนส่งระบบรางเป็นนโยบายที่โดดเด่นของรัฐบาลชุดนี้ เกรงว่าการได้บุคคลภายนอกจะทำให้งานนั้นอาจสะดุด ไม่ราบรื่น อันเนื่องมาจากต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้งานเพราะการรถไฟเป็นหน่วยงานที่ใหญ่และเป็นงานที่มีเทคนิคเฉพาะ