นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า วันนี้(7 ก.ย.) ธนาคารออมสินได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนกู้เงินในโครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก วงเงินดำเนินการ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ รวมถึงบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 3 ปี และให้เพิ่มเติมระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อเสริมพลังฐานราก สามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือคลิกที่นี่
เอกสารใช้ในการขอกู้สินเชื่อเสริมพลังฐานราก
1. ผู้ประกอบการรายย่อย
2. ผู้มีรายได้ประจำ
เงื่อนไขการสมัคร “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก
1. เป็นผู้มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
2. ไม่เป็นลูกจ้าง หรือ พนักงานธนาคารออมสิน
3. ไม่เป็นผู้ที่ได้รับรายได้ประจำจากหน่วยงานภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ
4. ต้องการกู้เงินเพื่อใช้ในการลงทุน/ซื้อ/ซ่อมแซม อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองสำหรับการดำรงชีวิตในช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากภัยทางเศรษฐกิจ
5. วงเงินกู้ สูงสุดไม่เกินรายละ 50,000 บาท
6. อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน (Flat Rate) กรณีผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้คิดเพิ่มอีกร้อยละ 0.50 ต่อเดือน ของเงินต้นที่ถึงกำหนดชำระ
7. ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นงวดรายเดือน สูงสุดไม่เกิน 3 ปี (30 งวด) ระยะเวลาปลอดชำระหนี้ 6 งวดแรก (เงินต้นและดอกเบี้ย)
8. ไม่มีหลักประกัน
9. ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ คือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2563
10. ผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ จะได้รับเงินผ่านบัญชีเงินฝากที่ใช้เป็นบัญชีคู่โอนสำหรับหักชำระสินเชื่อ
11. ต้องชำระหนี้ด้วยการหักบัญชีเงินฝาก โดยผู้กู้ทำหนังสือยินยอมให้หักบัญชีเงินฝากที่ได้รับระบุไว้เพื่อ
12. ชำระหนี้ ซึ่งผู้กู้ต้องนำเงินฝากเข้าบัญชีที่ยินยอมก่อนวันครบกำหนดชำระเงินงวด
13. การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้มีการจัดสรรวงเงินจากโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งออมสินนำไปปล่อยสินเชื่อไม่เกินรายละ 50,000 บาท แต่ปรากฏว่ามีการยื่นเรื่องขอกู้ และอนุมัติสินเชื่อไปจำนวนไม่มาก แม้จะมีการเปิดลงทะเบียนรอบ 2 เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะผู้มีรายได้ประจำส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ไม่เข้าเงื่อนไข ส่งผลให้ ครม.เห็นควรให้จัดสรรวงเงินจำนวน 10,000 ล้านบาทจากโครงการดังกล่าวมาใช้ในโครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานรากแทน ซึ่งมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้ดึงวงเงินอีก 5,000 ล้านบาทจากโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาใช้ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยจะปล่อยกู้รายละไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ 5 ปี ปลอดชำระเงินต้นนาน 1 ปี โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นเรื่องขอกู้เงินได้โดยตรงที่ธนาคารออมสิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง