ผักแพงรับ “กินเจ” ราคาขยับ10-15% ผักชีกิโลละ 300-400 บาท

นายวัฒนศักย์  เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังตรวจราคาอาหารสดอาหารแห้งและอาหารปรุงสำเร็จก่อนเข้าเทศกาลกินเจ ซึ่งปี 2563 ตรงกับวันที่ 17-25 ตุลาคม ที่ตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ว่า  ราคาผักบางชนิดช่วงนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยและเทียบช่วงต้นปีนี้ สูงขึ้นประมาณ 10-15% เนื่องจากผลผลิตบางส่วนเน่าเสียหายและปริมาณลดลงในพื้นที่เพาะปลูกที่เจอปัญหาฝนตกหนัก น้ำท่วมนาน อาทิ ผักชี กิโลกรัมละ 300-400 บาท

แต่ถือว่าไม่กระทบกับเทศกาลกินเจเพราะไม่ใช้ผักที่ใช้ปรุงอาหารเจ ขณะที่ผักชนิดอื่นโดยรวมถือว่าราคาปรับเล็กน้อย ตามกลไกตลาดของผลผลิต แต่ปริมาณถือว่ายังเพียงพอกับความต้องการ และเกษตรกรปลูกผักเพื่อใช้ปรุงอาหารเจเพิ่มขึ้นรองรับไว้แล้วในช่วงเทศกาลกินเจ  และกรมได้เชื่อมโยงแหล่งผลิตกับตลาดกลางจำหน่ายสินค้าเกษตรและห้างสรรพสินค้า เพื่อให้มีผลผลิตเพียงพอกับร้านค้าทั่วไปได้หาซื้อ 

ทั้งนี้วัตถุดิบปรุงอาหารเจ เช่น โปรตีนเกษตร ถั่ว และงา ราคาทรงตัวเทียบกับช่วงเทศกาลกินเจปีก่อน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ราคาอาหารเจปรุงสำเร็จจะสูงขึ้น  และเพื่อช่วยผู้บริโภคประชาชนทั่วไปลดภาระค่าครองชีพ  จึงร่วมกับเครือข่ายตลาดสดทั่วประเทศ และห้างค้าปลีก จัดเมนูเจราคาประหยัด จานละ 20-25 บาทให้เป็นทางเลือก เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมจนหมดเทศกาลกินเจ 

ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และค้าปลีก ยังคงราคาเดิม เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชน และเร็วๆนี้กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มรายการสินค้าและจัดแคมเปญลดราคาพิเศษเพื่อรับปีใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด 

โดยจากการสำรวจราคาผักที่ตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย พบว่า ยังเป็นราคาใกล้เคียงสัปดาห์ก่อนหน้านี้  เช่น คะน้า ราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท / ผักบุ้งจีน กิโลกรัมละ 30-35 บาท /ผักกวางตุ้ง กิโลกรัมละ 40 บาท / ผักหาดหอม กิโลกรัมละ 90 บาท / ผักกาดขาด กิโลกรัมละ 45-50 บาท / และกะหล่ำปลี กิโลกรัมละ 60-60 บาท 

ด้านน.ส.รัชนี รื่นรวย ผู้ดูแลตลาดบางขุนศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น จากเคยซื้อ 100 ก็เหลือ 60 บางส่วนซื้อในปริมาณเท่าเดิม จึงทำให้ประเมินได้ยากว่ากินเจปีนี้จะคึกคักแค่ไหน แต่เชื่อว่าพฤติกรรมการกินเจ จะมีทั้งการซื้อเพื่อไปปรุงเองและบางส่วนเท่านั้นซ้ำสำเร็จ ซึ่งปีนี้อาหารเจปรุงสำเร็จมีราคาเริ่มต้นลดลง เริ่มจาก 20-25 บาท 

สำหรับปัญหาแรงงาน นั้น ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการในตลาดสดก็เจอปัญหาขาดแคลน เพราะแรงงานต่างด้าวที่กลับไปก่อนโควิด-19 ระบาดยังไม่ได้กลับมา และต่างด้าวในไทยที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้วยังไม่ได้ต่ออย่างเป็นทางการ ก็ทำให้นายจ้างไม่กล้าจ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ทางตลาดได้ขอกำชับให้ร้านค้าทุกร้านเข้มงวดเรื่องการรับแรงงานต่างด้าว และเข้มงวดในเรื่องการตรวจสอบสุขภาพและป้องกันเรื่องโควิด-19 อย่างเคร่งครัด