ผู้ถือหุ้นรายย่อย 99% ไฟเขียวCPF ซื้อธุรกิจสุกรในจีน

27 ต.ค. 2563 | 11:42 น.

ผู้ถือหุ้นรายย่อยในซีพีเอฟ 99% อนุมัติเข้าซื้อธุรกิจสุกรในจีน เสริมแกร่งหนึ่งในผู้นำธุรกิจสุกรชั้นนำของโลก

รายงานจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เผยว่า ได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นรายย่อย 99% ให้บริษัทย่อยเข้าซื้อธุรกิจสุกรในประเทศจีน จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น( 27 ต.ค.2563) ส่งผลให้ขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมสุกรของโลก ผู้บริหารมั่นใจเป็นประโยชน์กับบริษัทและเสริมการเติบโตในระยะยาว

 

นายประสิทธิ์  บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการสุกรในประเทศจีนครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรในประเทศจีนที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเนื่องจากจำนวนประชากรที่มากและความนิยมในการบริโภคสุกรในประเทศสูง และมีแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็ว  ประกอบกับการเกิดขึ้นของโรค African Swine Flu หรือ ASF ในประเทศจีนใน 3 ปีที่ผ่านมา ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การบริหารการเลี้ยงแบบรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดี  การมีลูกสุกรที่แข็งแรงและระบบการเลี้ยงที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพตามมาตรฐานจึงเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ ซึ่งซีพีเอฟได้ให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด 

ผู้ถือหุ้นรายย่อย 99% ไฟเขียวCPF ซื้อธุรกิจสุกรในจีน

ปัจจุบันซีพีเอฟมีธุรกิจสุกรใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และเริ่มลงทุนในฟิลิปปินส์ และมีการร่วมลงทุนในประเทศรัสเซีย และล่าสุดในประเทศแคนาดา การที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอนุมัติให้ซีพีเอฟเข้าไปในธุรกิจสุกรครบวงจรในประเทศจีน ทำให้บริษัทก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสุกรของโลก  

 

เนื่องจากปริมาณสุกรที่เลี้ยงในประเทศจีนเกินกว่าครึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเมื่อมีการระบาดของโรค ASF ทำให้เกิดความเสียหายสูง และยังมีโอกาสจะติดโรคอีกครั้งเมื่อกลับมาเลี้ยงใหม่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง การเลี้ยงสุกรจะเป็นระบบสร้างคุณค่าร่วม ซีพีเอฟวางแผนการขยายธุรกิจด้วยการส่งเสริมเกษตรกรในการเลี้ยงด้วยมาตรฐานการจัดการที่ทันสมัยปลอดภัยจากโรค และต่อยอดด้วยการพัฒนาธุรกิจแปรรูปสุกรเพิ่มขึ้น ดังนั้นการที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้บริษัทย่อยของซีพีเอฟเข้าลงทุนในธุรกิจสุกรครั้งนี้ จะช่วยเสริมการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต 

ผู้ถือหุ้นรายย่อย 99% ไฟเขียวCPF ซื้อธุรกิจสุกรในจีน

 

นายประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่ยังคงอยู่ว่า เป็นสิ่งท้าทายสำหรับธุรกิจจากความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคน่าจะลดลง อย่างไรก็ตาม ซีพีเอฟได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและในการผลิต บริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับในหลายประเทศที่ลงทุนนั้นยังมีการขยายพื้นที่การตลาด จึงคาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทน่าจะยังคงดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้