สภาเกษตรกรแห่งชาติ ชง ประกันรายได้ “สับปะรด” 7 บาท/กก.
ดัดหลังพ่อค้า กดราคา "สับปะรด" รูดดิ่งเหลือ 4 บาท/กิโลกรัม “สภาเกษตรกร” เล็งชง “จุรินทร์” เสนอพืชน้องใหม่ เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ราคาประกัน 7 บาท/กก.
นายอานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคาสับปะรดเพิ่งเริ่มต้นฤดูกาล วันนี้พ่อค้าคนกลาง หรือแผงรับซื้อ กดราคาสับปะรดเหลือ 4-5 บาท/กิโลกรัม ประกอบกับโรงงานลดกำลังการผลิต ก็มาจากผลกระทบจากโควิด และแรงงานต่างด้าว หลังจากโรงงานปิดหีบ พอกลับไปแล้วเกิดโควิดรอบ2 แรงงานกลับมาไทยไม่ได้ โรงงานบางโรงก็พยายามที่จะเพิ่มกำลังการผลิตโดยการทำโอที แต่ก็ได้ในระดับหนึ่ง ผลผลิตที่ออกมาในต้นฤดูของการเก็บเกี่ยว แม้ว่าผลผลิตไม่มาก
“วันหนึ่งปริมาณสับปะรด 5,000-6,000 ตัน แต่ว่า โรงงานสามารถผลิตได้จริงกว่า 4,000 ตัน จะมีส่วนเหลือประมาณวัยละกว่า 1,000 ตัน ส่วนที่เหลือตรงนี้เกษตรกรที่จะเก็บเกี่ยวก็ต้องขอโควตา คือเวลาที่ขอโควตาจากโรงงาน จะเลื่อนการจ่ายโควตาออกไป บางแปลงสุกที่จะเก็บเกี่ยวก็รอไม่ได้ อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นส่วนแผงรับซื้อ หรือ พ่อค้าคนกลาง เวลารับซื้อก็ไปส่งโรงงาน เวลาโรงงานปรับลงราคาเรื่อยๆ แผงเองก็ไม่มีความมั่นใจว่าซื้อมาแล้ว พรุ่งนี้ไปส่งเกรงว่าจะขาดทุน เพราะโรงงานลงราคาอย่างต่อเนื่อง ก็เลยปรับราคาลงล่วงหน้า”
นายอานนท์ กล่าวว่า ในส่วนของชาวไร่สับปะรดต้นทุนการผลิต 4.50-5 บาท/กก. หากเทียบกับราคาขายแผง วันนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่เสมอกับต้นทุน นี่เป็นแค่เพียงต้นฤดู ดังนั้นอยากจะเร่งให้ทางบอร์ดสับปะรด ซึ่งมี คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ มีการประชุม เพราะถ้าไม่มีการวางแผงล่วงหน้า เพราะถ้าราคาล่มตั้งแต่ต้นฤดูแล้ว จะล่มยาว กอบกู้วิกฤติราคายาก
“อย่างปีที่ผ่านมาผลผลิตมีน้อย ราคาปรับขึ้นไปสูงมาก และช่วงต้นโควิดมีการกักตุนอาหารกระป๋องจึงส่งผลดี แต่พอมาสักระยะหนึ่งเกษตรกรก็มองว่าราคาดีก็แห่ปลูกกันโดยไม่มีข้อมูลที่ขัดเจนว่าโรงงานจะมีกำลังซื้อเท่าไร ราคาในอนาคตจะเท่าไร หลงทิศทาง อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ บอกว่ามีบิ๊กดาต้าข้อมูลที่ชัดเจน หากนำมาใช้จะเกิดประโยชน์ร่วมกันได้ และที่สำคัญอยากเสนอให้มีการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ เป็นพืชที่ทำรายใด้ได้ให้กับประเทศ โอกาสที่จะสูญเสียแชมป์ตลาดโลก
“จะเป็นการสร้างความมั่นคงให้ในเรื่องอุตสาหกรรมสับปะรดทั้งระบบ เพราะประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มีโอกาสมีจะสูญเสียความเป็นหนึ่งเป็นแชมป์ตลาดโลกเป็นไปได้สูงมาก ถ้ามีการประกันรายได้ไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตบวกค่ากำไร เกษตรกรจะมีความมั่นคงเรื่องรายได้ จะทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ บวก30-40% ของต้นทุน ต้นทุนอยู่ที่ 5 บาท/กก. ราคาประกันควรอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 7 บาท/กก.”
อนึ่ง ปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการประกันรายได้ 5 พืช สินค้าเกษตร ประกอบด้วย ข้าว,มันสำปะหลัง,ยางพารา,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งออกเดี้ยง สับปะรดแพง ห่วงปี 64 ราคาดิ่งเหว