ความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ชาวสวนยาง ตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2563 เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท. ) ทั้งบัตรสีเขียว และบัตรสีชมพู ซึ่งแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยาง ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จำนวน 1,834,087 ราย พื้นที่สวนยางกรีดได้ 18,286,186.03 ไร่ กำหนดระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563–มีนาคม 2564 ราคายางที่ประกันรายได้ กำหนดให้ยางแผ่นดิบคุณภาพดี อยู่ที่ 60.00 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57.00 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23.00 บาท/กิโลกรัม ส่วนปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ ผลผลิตยางแห้ง 20 กก./ไร่/เดือน ยางก้อนถ้วย 40 กก./ไร่/เดือน รายละไม่เกิน 25 ไร่ โดยแบ่งสัดส่วนรายได้แก่เจ้าของสวน 60% และคนกรีด 40% ล่าสุดคาดว่าจะจ่ายสัปดาห์นี้ หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความคืบหน้าตามลำดับ
วันที่ 8 ธันวาคม 2563 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผย ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้ชาวสวนยาง ระยะที่ 2 เป็นไปตามที่ กยท. เสนอ มีผลให้สามารถจ่ายเงินส่วนต่างแก่เกษตรกรชาวสวนยางได้ทันที ซึ่ง กยท. ได้ประสานกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. ระบุจะสามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยางงวดแรกภายในวันที่ 11 ธ.ค. 2563 นี้ โดยจ่ายตรงผ่านบัญชี ธ.ก.ส. เจ้าของสวนยางและคนกรีดยางที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 1 มีคุณสมบัติครบถ้วน คือขึ้นทะเบียนก่อน 12 สิงหาคม 2562 ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2562 แต่ไม่เกิน 15 พฤษภาคม 2563 กยท. ได้ตรวจสอบและส่งข้อมูลการจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ตามโครงการฯ ให้กับ ธ.ก.ส. แล้ว เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวสวนยางในรอบถัดไป
“สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,834,087 ราย โดยแบ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กยท. จำนวน 1,142,294 ราย เกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งพื้นที่ปลูกกับ กยท. จำนวน 419,060 ราย และคนกรีดยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. จำนวน 272,733 ราย” ผู้ว่าการ กยท. กล่าว
ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 งวดแรกประจำเดือนตุลาคม 2563 จะใช้กำหนดราคายางพาราอ้างอิงย้อนหลัง 60 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน – 23 พฤศจิกายน 63 โดยราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 62.62 บาท/กก. ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 52.86 บาท/กก. ชดเชย 4.14 บาท/กก. และราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) อยู่ที่ 19.09 บาท/กก. ชดเชย 3.19 บาท/กก.
ซึ่งตัวเลขการจ่ายเงินงวดที่ 1 ประจำเดือน ตุลาคม 2563 จ่ายให้เกษตรกรชาวสวนยางงวดแรกจำนวน 968,468 ราย คิดเป็นพื้นที่ 10,154,813.613 ไร่ จำนวนเงิน 1,249.672 ล้านบาท และตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป จะใช้กำหนดราคายางพาราอ้างอิงย้อนหลัง 30 วัน และจ่ายเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางเดือนละ 1 ครั้ง จนครบ 6 งวดตามโครงการ
ดังนั้นพี่น้องชาวสวนยาง ลองตรวจสอบสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.rubber.co.th/gir/index เบื้องต้นก่อน หากสงสัย หรือไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กยท. สำนักงานใหญ่ กยท.จังหวัด / กยท. สาขา ทั่วประเทศ
เกษตรกร สามารถตรวจสอบผลการโอนเงินประกันราคาข้าวยางพารา ได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect
เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา สามารถตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวด้วยตัวเอง ที่ chongkho.inbaac.com จากนั้นให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เสร็จแล้วกดค้นหา หากเงินเข้าระบบแล้วจะมีการแจ้งว่าโอนเรียบร้อยแล้ว แต่หากยังไม่เข้าให้รอข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง ธ.ก.ส.จะทำการโอนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันทำการ