นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า บีโอไอได้ดำเนินการร่วมมือกับกรมสรรพากร เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เป็นการยกระดับการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระแก่นักลงทุน ที่ต้องกรอกแบบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการผ่านระบบ e–Monitoring ให้ไม่ต้องกรอกข้อมูลและจัดส่งเอกสารที่ซ้ำซ้อนกันให้แก่ทั้งสองหน่วยงาน
นอกจากนี้ การเชื่อมโยงข้อมูลครั้งนี้จะช่วยให้การดำเนินการด้านการให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบ e–Tax ของบีโอไอเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นชุดเดียวกับกรมสรรพากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนในการขอใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล และแสดงถึงธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ โดยการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวของทั้งสองหน่วยงานจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 64 เป็นต้นไป
“ความร่วมมือกับกรมสรรพากรครั้งนี้จะช่วยลดขั้นตอนการส่งข้อมูลของนักลงทุนที่ได้รับการส่งเสริม ให้กรอกเพียงครั้งเดียว อันจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ได้รับการส่งเสริม ให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา บีโอไอมุ่งมั่นพัฒนาระบบการให้บริการผ่านระบบดิจิทัลมาโดยตลอด โดยเฉพาะการนำระบบการขอใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบดิจิทัล (e-Tax) มาใช้ตั้งแต่ปี 59 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในการยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งแต่ละปีมีการยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์มากกว่า 4,000 บริษัท และเป็นระบบที่ทำให้บีโอไอได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทพัฒนาบริการ ระดับดี ประจำปี 62”
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันระหว่าง บีโอไอ กับกรมสรรพากรที่จะร่วมบูรณาการด้านการให้บริการภาครัฐ พร้อมสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินไปได้อย่างสะดวก รวดเร็วและถูกต้อง ภายใต้กลยุทธ์ Digital Transformation การเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันนี้จะเป็นการอำนวยความสะดวก ช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อนของขั้นตอนการนำส่งข้อมูลด้านเอกสาร ป้องกันข้อผิดพลาดในการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามบัตรส่งเสริมการลงทุน
“การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสองหน่วยงาน ยังจะเป็นประโยชน์ในการนำข้อมูลไปศึกษาและวิเคราะห์แนวทางการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไปด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :