นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้ (24 ก.พ.) ว่า ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ 15 นโยบายหลัก ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขับเคลื่อนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี 2564 ภายใต้วิกฤติโควิด-19 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงผนึกความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.-Thailand Professional Qualification Institute) เพื่อยกระดับมาตรฐานอาชีพด้านการเกษตรด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังนี้
1. พัฒนามาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาวิชาชีพหรือสาขาอาชีพด้านการเกษตร
2. สนับสนุนบุคลากรผู้ประกอบอาชีพด้านการเกษตรในเครือข่ายของ กษ. ให้เข้ารับการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาวิชาชีพหรือสาขาอาชีพด้านการเกษตร
3. ร่วมมือศึกษาวิจัย และพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรผู้ประกอบอาชีพด้านการเกษตรในสาขาวิชาชีพหรือสาขาอาชีพด้านการเกษตร รวมถึงขับเคลื่อนการฝึกอบรมผ่านระบบการเรียนรู้สมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพหรือสาขาอาชีพด้านการเกษตร
5. ร่วมกันสร้างการรับรู้ และยอมรับในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ตลอดจนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่ทำร่วมกันให้เป็นที่แพร่หลายในทุกภาคส่วน
โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) สมาร์ท ฟาร์มเมอร์ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ศพก. วิสาหกิจชุมชน ผู้นำสหกรณ์ ปราชญ์เกษตรและเกษตรกรที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและผู้ประกอบการด้านการเกษตรเป็นต้น
ทั้งนี้จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนากำลังคนด้านการเกษตรของประเทศสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ภายในเดือนมีนาคมนี้
“การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคเกษตรถือเป็นหัวใจของการปฏิรูปภาคเกษตรในการพัฒนาอาชีพเกษตรสู่มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อสร้างศักยภาพใหม่ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(ศูนย์AIC)ทั้ง77จังหวัด
จะมีบทบาทสำคัญในความร่วมมือกับสคช.ในโครงการนี้ในฐานะศูนย์อบรมบ่มเพาะในภูมิภาคและใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของสคช.เป็นหลักซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีเช่นมาตรฐานวิชาชีพอีคอมเมิร์ซเกษตรซึ่งมีคณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซรับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ”
ด้าน นายนพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) พร้อมให้การสนับสนุนทุกช่องทางในการพัฒนาทักษะให้กับเกษตรกรและผู้ที่อยู่ในอาชีพเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะการทำงานอย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ทั้งการจัดอบรมแบบเข้าถึงพื้นที่ และการจัดอบรมออนไลน์ที่ตอบโจทย์สถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ สามารถนำระบบการฝึกอบรมออนไลน์ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (TPQI E-Training) ไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการฝึกอบรมให้เกษตรกรทั่วประเทศ ผ่านศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) ที่มีอยู่ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศได้อีกช่องทางด้วย
นอกจากนี้ สคช. พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรเข้าสู่การประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อรับการการันตีเป็นมืออาชีพโดยหน่วยงานภาครัฐ เบื้องต้น สคช. ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และคนในอาชีพ จัดทำมาตรฐานอาชีพด้านการเกษตรแล้วกว่า 90 อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเพาะปลูก การแปรรูป เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรกรปราดเปรื่อง รวมทั้งเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากนี้ สคช. ยังพร้อมสนับสนุนช่องทางการตลาด และโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ สคช. มีความร่วมมือกับธนาคารออมสิน SME D Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่พร้อมพิจารณาสินเชื่อเพื่อมืออาชีพ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาส และศักยภาพในการทำงานที่สอดรับนโยบายปฏิรูปเกษตรด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมและการตลาดสมัยใหม่ บนฐานเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจ 4.0 และการยกระดับภาคเกษตรให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญเพื่อการบริโภคของคนไทยและก้าวสู่การเป็นครัวโลก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาด้านการเกษตรได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เฉลิมชัย” ผงาดเวทีโลก ตอกย้ำครัวโลกยุคโควิด
เล็งเคาะราคาเมล็ดพันธุ์จำหน่าย “กัญชง” เม.ย.
ไฟเขียว เพิ่มวงเงิน “ประกันรายได้ยางพารา” อีก 4.9 พันล้านบาท
เขย่าข้าวโลก ปรับแผนพันธุ์ข้าวใหม่