นายสรรคนนท์ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นกรุ๊ป ในฐานะผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารในเครือ รวม 10 แบรนด์ ประกอบด้วยแบรนด์อาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ คือ Zen, AKA , On the Table , Din's , TETSU , Sushi Cyu & Carnival ซึ่งมูลลค่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นราว 3 หมื่นล้านบาท และแบรนด์อาหารไทย 4 แบรนด์ คือ เขียง, ตำมั่ว, ลาวญวน, De Tummour ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ที่มองหาอาหารที่มีคุณภาพและความคุ้มค่าจากร้านอาหารระดับ premium ไปถึงร้านอาหารแนว casual dining
ปีนี้ เซ็นกรุ๊ป กางแฟนทิศทางและกลยุทธ์สำคัญของแต่ละแบรนด์อาหารในเครือฯ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พร้อมชูคอนเซปต์ Everyday Zen เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคคิดถึงเซ็นกรุ๊ปในทุกมื้ออาหาร
นางสาวจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กล่าวถึงแผนการทำตลาดปี 2568 ว่า ปีนี้ เซ็นกรุ๊ปจะบุกทำตลาดทุกแบรนด์เต็มสูบ โดยจะเน้นหนักที่แบรนด์อาหารหลัก คือ ปีนี้มีแผน 8 สาขา ใช้เงินลงทุนเปิดสาขาใหม่ รวมถึงการรีโนเวทรวม 10 สาขา ใช้งบลงทุนรวมทิ้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท
"เซ็นกรุ๊ป" เจ้าของร้านอาหาร 10 แบรนด์ดัง เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์ ต่างประเทศ ปัจจุบันมีสาขาแฟรนไชส์ในเวียงจันทน์ (ลาว) จำนวน 4 สาขา และในฟิลิปปินส์ 5 สาขา นอกจากนี้ ในเวียงจันทน์ยังมีร้านอาหารภายใต้แบรนด์ "ออน เดอะ เทเบิล" 1 สาขา, "ลาวญวน" 1 สาขา
และล่าสุดกับสาขาแรกของร้าน "Zen" รวมทั้งในและต่างประเทศ: "เซ็นกรุ๊ป" มีสาขาแฟรนไชส์รวมกันทั้งสิ้น 24 สาขา แบ่งเป็นไทย 12 สาขา และต่างประเทศ 12 สาขา และมีการลงทุนเปิดสาขาเองในไทบอีก 8 สาขาจากสภาวะเศรษฐกิจผันผวนทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดน้อยลง ส่งผลให้สาขาใหม่ ๆ ที่จะเปิดจะใช้พื้นที่บทห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก
สำหรับแผนการขยายสาขาในปีนี้ เซ็นกรุ๊ปจะมุ่งเน้นการเติบโตในรูปแบบแฟรนไชส์ในต่างประเทศ มีภูมิภาคเอเชียเป็นเป้าหมายแรก โดยในปี 2567 มีการเปิดร้าน “เขียง” ที่ประเทศ ญี่ปุ่น, ลาว และ มาเลเซีย และในไตรมาสแรก ของปี 2568 มีเปิดเพิ่มที่ ลาว 1 สาขา และฟิลิปปินส์ 1 สาขา พร้อมแผนเปิดสาขาเพิ่มที่ ฟิลิปปินส์ ลาว และมาเลเซียอย่างต่อเนื่องอีกหลายสาขา นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดสาขา On The Table และ ลาวญวน ที่ประเทศลาว ในไตรมาส 2 อีกด้วย
อีกทั้งยังขยายช่องทางการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ในประเทศไทย ที่ไม่ใช่เพียงแค่ขายอาหารในร้านอาหารเท่านั้น แต่เป็นการขายผ่านช่องทางขายปลีก โดยร่วมมือกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จํากัด (มหาชน)นำร่องที่แมคโคร และโลตัส ทุกสาขา ด้วยการส่งน้ำปลาร้าสูตรเด็ด แบรนด์”ตำมั่ว” เข้าไปขายคู่กับชุดผักส้มตำพร้อมปรุง มี 2 ผลิตภัณฑ์ คือ “ชุดผักส้มตำปลาร้า” และ “ชุดผักส้มตำไทย” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้รับประทานตำมั่วทุกที่ ทุกเวลา เจาะเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างและครอบคลุมมากที่สุด
นอกจากนี้ เซ็นกรุ๊ปยังมีแผนในการปรับภาพลักษณ์และองค์ประกอบต่าง ๆ ของแบรนด์อาหารที่สั่งสมมากกว่า 30ปี ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับผู้บริโภคยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการบริโภค เพื่อให้แบรนด์อาหารในเครือสามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด กล่าวถึงทิศทางหรือวิสัยทัศน์ทางการตลาดของแต่ละแบรนด์อาหารในเครือ ว่า ปัจจุบันธุรกิจของ เซ็นกรุ๊ป มีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
ธุรกิจร้านอาหาร มีสัดส่วนรายได้กว่า 70% สร้างการเติบโตของสาขาที่มีอยู่ในมืออยู่แล้ว ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นในด้านคุณภาพอาหาร บริการ และประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้แข็งแกร่ง และสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในทุกตลาด
ธุรกิจแฟรนไชส์ โดยรายได้หลักมาจากการขายวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ ซึ่งปีนี้จะเน้นขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศเต็มกำลัง จากปีก่อนที่เปิดแฟรนไชส์ร้านอาหาร เขียง 2 สาขาแรก ในประเทศลาว ได้แก่ เขียง ศิวิลัย และ เขียง โพนสีนวน ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำตลาดอย่างมาก และในขณะเดียวกัน จะมีการปรับโมเดลรูปแบบการให้บริการในร้านเขียงที่เป็นสาขาแฟรนไชส์ ให้มีรูปแบบการให้บริการในร้านมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เน้นการ delivery เพียงอย่างเดียวธุรกิจผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย โดยรายได้ในปี 2567 ทำรายได้รวม 734 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34 %
นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล Chief Financial Officer กล่าวว่า ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือ 10 แบรนด์ รวมกว่า 317 สาขา ซึ่งมีทั้งสาขาที่ลงทุนเอง 177 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 140 สาขา ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
รองลงมารายได้จากการจำหน่ายสินค้าปรุงรส ผ่าน เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องปรุงรสของบริษัทย่อย เติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับการจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องปรุงรสก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น
และ คิง มารีน ฟู้ดส์ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเลและเนื้อแช่แข็งของบริษัทย่อย ธุรกิจอาหารทะเลและเนื้อแช่แข็ง รวมถึงวัตถุดิบ ในการปรุงอาหาร มีการจัดหาสินค้าใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น
นายศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีนี้ธุรกิจจะโฟกัสที่การทำรายได้และสร้างผลกำไรในสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน การปรับโมเดลธุรกิจให้กระชับ ทันสมัย พร้อมทั้งการขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันให้แบรนด์ ในเครือมีฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น สร้างความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตให้กับตลาดหลักในกลุ่มประเทศในเอเชีย อาทิ ไทย มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม ลาว คาดว่าในปี 2568 นี้ จะสามารถต่อยอดให้ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตได้ตามเป้าหมาย