รัฐบาลเดินหน้านโยบาย "ประกันรายได้เกษตรกร" มาต่อเนื่อง สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 เตรียมวงเงินงบประมาณเบื้องต้นไว้ที่ 4.6 พันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาผลผลิตตกต่ำที่เกิดขึ้น
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. แจ้งว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิง เข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรงทุก 30 วัน หรือตามกรอบเวลาที่คณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 กำหนดไว้
โดยกำหนดราคาเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสมจากการขายผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) ที่กิโลกรัมละ 4 บาท จำนวนเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์กว่า 3.7 แสนราย ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ย. 2564
คุณสมบัติ-หลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ปาล์มน้ำมันปี 64
1.เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ กับ กรมส่งเสริมการเกษตร ทุกครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่
2.ต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุ 3 ปีขึ้นไป)
3.กำหนดผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่อปีที่ใช้คำนวณวงเงินช่วยเหลือที่เกษตรกรแต่ละครัวเรือนจะได้รับ โดยใช้ข้อมูลผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศย้อนหลัง 3 ปี (เดือน ก.ย. 2560 ถึงเดือน ส.ค. 2563) คิดเป็น 2,948 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี
ทั้งนี้ เมื่อ ธ.ก.ส. ประมวลผลตามข้อมูลที่ได้รับแล้ว จากนั้นจะโอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีเงินฝากเกษตรกร ซึ่งเงินประกันรายได้ในแต่ละงวดจะคำนวณจาก (ราคาเป้าหมาย (4 บาทต่อกิโลกรัม) - ราคาตลาดอ้างอิง) X (ปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่องวด X จำนวนไร่) ซึ่งจะมีการประกาศราคาตลาดอ้างอิงทุก 30 วัน โดยจะจ่ายเงินเมื่อมีส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิง ตามที่คณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันกำหนด
สำหรับช่องทางตรวจสอบการโอนเงินนั้น สามารถตรวจสอบการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ กรณีเป็นลูกค้าที่สมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่านทาง LINE Official BAAC Family เมื่อมีเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากเรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: