จากการเริ่มต้นงานดูแลสินเชื่อให้กับธนาคารแห่งหนึ่งเมื่อ 16 ปีที่แล้ว จึงเห็นโอกาสเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากเห็นแอสเสจดีๆ ที่จะลงทุนซื้อและนำมาปล่อยเช่า จนปัจจุบันบริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด มีธุรกิจในมือกว่า 5 แห่ง เป็นหอพักนักศึกษาในย่านรามคำแหง, หอการค้า ไปจนถึงโรงแรมแห่งแรกในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ แอสเทรา สาทร ล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัวโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ โรงแรมระดับ 5 ดาว แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางเมืองศรีราชา อ่านได้จากสัมภาษณ์นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด
[caption id="attachment_384618" align="aligncenter" width="361"]
ปริญญา เธียรวร[/caption]
มุ่งสร้างรายได้ทั้งเช่า-ขาย
ด้วยความที่เคยทำงานแบงก์มาก่อน ผมเลยมองโมเดลการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เหมือนคนอื่น และรู้ว่าจะปิดช่องโหว่ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างไร ดังนั้นผมจะมองว่าอสังหาฯที่ผมลงทุนไป จะมีรายได้เข้ามาตลอดเวลาได้อย่างไร เพื่อสร้าง CASH FLOW (กระแสเงิน) และการเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้เราต้องทุ่มเทในการสร้างธุรกิจ
จากประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา ผมจึงมองการหารายได้ใน 2 ขา ทั้งจากฝั่งการปล่อยเช่า และรายได้ที่เกิดจากการขายอสังหาฯ เพราะในอดีตการเริ่มธุรกิจด้วยการเปิดให้เช่า รายได้ที่เข้ามาไม่คุ้มกับกระแสเงินสด ที่ตอนนั้นเรามีรายได้หลักกว่า 100 ล้านบาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พอเรามาทำรายได้จากการขาย แป๊ปเดียว ก็ได้ กว่า 100 ล้านบาท
ดังนั้นการพัฒนาธุรกิจในเครือวี.เอ็ม.พี.ซี. เราจึงมองที่จะแบ่งสัดส่วนการสร้างรายได้จากการเช่า อยู่ที่ 40% และรายได้จากการขายอยู่ที่ 60% อีกทั้งการลงทุนในแต่ละโปรเจ็ค จากการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนอย่างช้าสุดจะอยู่ที่ 15 ปี แต่ที่ผ่านมาถือว่าไปได้ดี เพราะจากการบริหารจัดการที่เหมาะสม ส่วนใหญ่ใช้เวลาคืนทุนราว 8-9 ปี
4 พันล.เปิดรร.5ดาวศรีราชา
ส่วนการตัดสินใจสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ที่อ.ศรีราชา กว่า 458 ห้อง เราลงทุนไปราว 4 พันล้านบาท (รวมที่ดิน) ที่เพิ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 เป็น การตัดสินใจสร้างก่อนที่รัฐบาลจะมีนโยบายในเรื่องของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีเสียอีก เพราะด้วยโลเกชันผมมองว่าพื้นที่ฝั่งภาคตะวันออก มีความโดดเด่นเรื่องของการเป็นฮับด้านโลจิสติกส์ สินค้าที่ผลิตจากแหลมฉบังหรือมาบตาพุด ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงก็ขนส่งไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถขน ส่งเรือได้สะดวก หรือแม้แต่ทางรถที่วิ่งขึ้นไปทางฉะเชิงเทรา วิ่งเส้น 304 ไปจ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ก็วิ่ง ต่อไป กัมพูชา ลาว ถึงจีนได้เลย
จริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะไปลงทุนที่พัทยา แต่มีคนมาเสนอขายที่แปลงนี้จำนวน 12 ไร่ที่ศรีราชา ตอนนั้นซื้อมาในราคา 1.5 แสนบาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของกำนันเป๊าะ เป็นพื้นที่แปลงงามใจกลางเมือง และเห็นวิวเกาะลอย เราจึงเลือกที่จะลงทุนที่นี่แทน คาดว่าจะคืนทุนไม่เกิน 10 ปี
โรงแรมแห่งนี้เราดึงเชนโอ๊ควู๊ด เข้ามาบริหาร เพราะเป็นแบรนด์ที่รู้จักเป็นอย่างดีสำหรับตลาดญี่ปุ่น และโรงแรมเรามีลูกค้ากลุ่มลองสเตย์มาก ก็เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา เพราะในส่วนของโอ๊ควู๊ด โฮเทล ศรีราชา ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เข้ามาทำงานในภาคตะวันออก และกว่า 50% ก็เป็นคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคตะวันออก ที่มาพักระยะยาว และในศรีราชาเอง ก็มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่กว่า 1 หมื่นครอบครัว
ทั้งนี้กลุ่มเหล่านี้ไม่ได้มองที่จะซื้ออสังหาฯเพราะต้องหมุนเวียนประเทศที่ทำงานไปเรื่อย แต่มองการเข้าพักแบบลองสเตย์เป็นหลัก และต้องการบริการที่ตอบโจทย์ โดยโรงแรมมีวันพักเฉลี่ยของลูกค้ากลุ่มนี้ราว 40 วัน นอกจากนี้โรงแรมยังมีลูกค้าคนไทยเข้ามาพักและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดด้วยเช่นกัน นี่เองทำให้โปรเจ็กต์ นี้เราจึงมองการเปิดให้เช่าเป็นหลัก
ปัจจุบันหลังจากการเข้ามาเจาะตลาดโรงแรมระดับ 5 ดาวในศรีราชา วันนี้เราก็จะเริ่มเห็นการลงทุนใหม่ในระดับ 4 ดาว ในพื้นที่นี้มากขึ้น เช่น แบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์หรือแม้แต่แบรนด์โนโวเทล ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีหน้า
อีอีซีหนุน ธุรกิจเติบโต
อีกทั้งยังมองว่าจากแนวโน้มธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯในพื้นที่อีอีซี ผมมองภาพบวก เนื่องจากโครงการอีอีซี เป็นตัวกระตุ้นให้มีต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว รวมถึงการผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน หรือการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ก็จะทำให้ต่างชาติเข้า มาทำงานในพื้นที่นี้เพิ่มมากขึ้น
ประกอบกับแนวโน้มของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ที่มองการเข้ามาลงทุนขยายโรงงาน หรือขยายไลน์การผลิตใหม่ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกทั้งจ.ชลบุรี รวมไปถึงปราจีนบุรี เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน หลังเหตุการณ์นํ้าท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นต้นมา เช่นโซนี่ ก็เลือกมาขยายไลน์การผลิตและลงทุนในชลบุรี สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับประโยชน์
สำหรับผลประกอบการของวี.เอ็ม.พี.ซี. ในปีที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ราวกว่า 200 ล้านบาท และการเปิดโรง แรมใหม่ที่ศรีราชา จะทำให้บริษัทมีรายได้ขยับมาเป็นราวกว่า 300 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากสเกลการลงทุนของโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ และประเมินมูลค่าของโครงการนี้ก็อยู่ที่ราว 7 พันล้านบาท
ทั้งหมดเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนธุรกิจของวี.เอ็ม.พี.ซี.ที่เกิดขึ้น
สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3442 ระหว่างวันที่ 7 - 9 กุมภาพันธ์ 2562