คณะกรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM มีมติแต่งตั้ง ดร.กฤษฎา เสกตระกูล นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ด SAM คนใหม่ วางเป้าหมายดันภารกิจเด่นชัด เน้นนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้พ้นวิกฤติทางการเงิน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคม และให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ดร.กฤษฎา เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการ บสส. การเข้ามาทำงานร่วมกับ SAM ในครั้งนี้ เพื่อมาดูแลการบริหารงานของ SAM ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ ที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ SAM ยังได้ให้การช่วยเหลือลูกหนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งในภาคธุรกิจ และภาคประชาชนรายย่อย ให้สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจและใช้ชีวิตได้ตามปกติมาแล้วรวมกว่า 50,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้มากกว่า 300,000 ล้านบาท
ดร.กฤษฎา ยังย้ำด้วยว่า SAM ยังได้ช่วยส่งคืนอสังหาริมทรัพย์รอการขาย (NPA) กลับคืนเข้าสู่ระบบด้วยการขายให้กับนักลงทุน และประชาชนทั่วไป ให้นำไปพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วเป็นมูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ SAM ยังช่วยส่งเงินสดคืนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไปแล้วเป็นจำนวนรวมกว่า 250,000 ล้านบาท
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา SAM ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศผ่าน โครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งหากนับจากการเปิดโครงการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ถึงปัจจุบัน มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 50,000 ราย ทำให้วันนี้ประชาชนที่ตกอยู่ในความยากลำบากจากการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล มีทางออกในการแก้ไขปัญหา”
ดร.ดร.กฤษฎา กล่าวว่า เมื่อปัญหาภาระหนี้สินคลี่คลายก็จะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตและครอบครัวของประชาชนดีขึ้น และมีผลในเชิงบวกโดยตรงต่อความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป
“การเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการของ SAM ในช่วงเวลานี้ นับเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศและของโลกอยู่ในภาวะถดถอยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อประชาชนและภาคธุรกิจรุนแรงและยาวนาน โดยเฉพาะตัวเลขหนี้เสียที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงได้มอบนโยบายให้ SAM ในฐานะที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของภาครัฐ ให้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศให้พลิกฟื้นคืนกลับมาโดยเร็วที่สุด”
ขณะเดียวกัน ยังได้วางภารกิจให้ SAM เป็นศูนย์กลางการให้ความรู้เพื่อบริหารหนี้สำหรับภาคประชาชนและธุรกิจ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่กำลังเดือดร้อนควบคู่ไปกับการผลักดันนโยบายระยะยาวในการให้ความช่วยเหลือแก่สังคม โดยเน้นการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการบริหารจัดการทางการเงินในระดับครัวเรือน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับ ดร.กฤษฎา ปัจจุบันดำรงตาแหน่ง รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยเข้าร่วมงานกับ ตลท. เป็นเวลานานกว่า 15 ปี เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินและด้านตลาดทุน มีประสบการณ์และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาความรู้ตลาดทุนแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ท้ังในด้านการส่งเสริม ความรู้การเงินขั้นพื้นฐานและการลงทุนสำหรับประชาชน การพัฒนาความรู้สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพในตลาด ทุน การพัฒนาความรู้ผู้นำองค์กร (หลักสูตร วตท.) และการบุกเบิก Startup Education Platform เป็นต้น จนทาให้ ตลท. เป็นศูนย์กลางคลังความรู้ที่สพคัญแห่งหน่ึงในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ดูแลงานด้านการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของ ตลท. ซึ่งเป็นงานส่งเสริมให้บริษัทจด ทะเบียนดำเนินธุรกิจให้ประสบความสาเร็จ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (ESG) ไปด้วย เพื่อสร้างให้ตลาดทุนไทยมีสินค้าที่มีคุณภาพและดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างประเทศ
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการเงิน ปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ (DBA.) จาก Southern Cross University ประเทศออสเตรเลีย